มติคณะรัฐมนตรี 28 ส.ค. 2561 เติมเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อินเทอร์เน็ตสำหรับผู้มีรายได้น้อย

28 ส.ค. 2561 เวลา 20:53 | อ่าน 6,370
แชร์ไปยัง
L
 

เรื่อง การเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้แก่ผู้มีสิทธิตามมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ


เติมเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ การปรับเปลี่ยนการเพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อการเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านอื่น ๆ ที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) กำหนด (สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นฯ) รายเดือน (200/100 บาท/คน/เดือน) สำหรับระยะเวลาคงเหลืออีก 4 เดือน (กันยายน – ธันวาคม 2561) เป็นการเติมเงินรายเดือนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ผู้มีสิทธิตามมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแทนด้วยเงินจำนวนเท่าเดิมกับที่เคยได้รับเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกและกำลังซื้อให้แก่ผู้มีสิทธิสามารถนำไปใช้จ่ายตามความต้องการอันจะช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพ และส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจ

สาระสำคัญของเรื่อง
กค. รายงานว่า การดำเนินการตามมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่เดือนมีนาคม – สิงหาคม 2561 (ระยะเวลาดำเนินการ 6 เดือน) ซึ่งใช้งบประมาณในการดำเนินการฯ รวมทั้งสิ้น 5,695.83 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายจากเงินกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ดังนี้

(1) กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/ปี จำนวนเงิน 4,868.85 ล้านบาท และ

(2) กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท/ปี จำนวนเงิน 826.98 ล้านบาท โดยมาตรการดังกล่าวสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดี กค. ได้เสนอว่า เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกและกำลังซื้อให้แก่ผู้มีสิทธิสามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้ตามความต้องการ อันจะช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพ และส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจ จึงเห็นควรปรับเปลี่ยนแนวทางจากการเพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นฯ รายเดือน เป็น การเติมเงินรายเดือนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิแทน ด้วยจำนวนเงินเท่าเดิมที่ได้รับ โดยจะใช้ดำเนินการในระยะเวลาที่เหลืออีก 4 เดือนของมาตรการนี้ คือ กันยายน – ธันวาคม 2561 ซึ่งผู้มีสิทธิสามารถถอนเงินที่เติมเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ฯ เป็นเงินสดได้ ผ่านตู้ ATM และสาขาของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย รวมทั้งหากมียอดคงเหลือของเดือน สามารถนำไปสะสมในเดือนถัดไปได้ ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นการขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2561 (เรื่อง มาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) ในส่วนของข้อ 3.5 มาตรการส่งเสริมการพัฒนาตนเอง


เรื่อง โครงการอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้มีรายได้น้อยภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560


โครงการอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้มีรายได้น้อยภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการโครงการอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้มีรายได้น้อยภายใต้โครงการลงทะเบียน เพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560

2. เพื่อให้การดำเนินโครงการดังกล่าวมีประสิทธิภาพและบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้

2.1 ให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือร่วมกันเพื่อจัดทำแผนดำเนินโครงการในรายละเอียด เช่น แนวปฏิบัติในการดำเนินโครงการระยะเวลาดำเนินโครงการ ประมาณการค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ รูปแบบชุดข้อมูลแนวทางการประชาสัมพันธ์โครงการ เป็นต้น รวมทั้งให้ร่วมกันจัดทำข้อเสนอโครงการ (Project Proposal) ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ชัดเจน และเป็นรูปธรรม เพื่อใช้ประกอบการนำเสนอ กสทช. ในการขอใช้แหล่งรายได้จากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามความเห็นของสำนักงาน กสทช. แล้วเสนอคณะรัฐมนตรี ก่อนดำเนินโครงการต่อไป

2.2 ให้กระทรวงการคลังร่วมกับสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นำฐานข้อมูลผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้มีการจัดทำไว้เป็นรายบุคคลมาวิเคราะห์เพื่อให้เห็นถึงความต้องการของผู้เข้าร่วมโครงการแต่ละบุคคลหรือแต่ละกลุ่มเป้าหมาย เพื่อใช้ในการออกแบบข้อมูลที่ตอบสนองความต้องการของผู้ได้รับสิทธิตามโครงการแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มเป้าหมายและพัฒนาช่องทางการเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์และสร้างความตระหนักให้กับผู้เข้าร่วมโครงการถึงการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างถูกต้องและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดส่งข้อมูลตามความเห็นของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อประกอบการดำเนินโครงการต่อไปด้วย

2.3 ในการหารือแนวทางการให้บริการอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้มีรายได้น้อยภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 ให้กระทรวงการคลังประสานงานกับสำนักงาน กสทช. เพื่อขอความร่วมมือให้หารือร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยคำนึงถึงประเด็นที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
(1) ควรสนับสนุนให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เข้าร่วมโครงการ จัดสรรการให้บริการที่เหมาะสมกับผู้มีรายได้น้อยและภาระค่าใช้จ่ายภาครัฐ โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ (2) คำนึงถึงความซ้ำซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นของการให้บริการอินเทอร์เน็ตภายใต้โครงการอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้มีรายได้น้อยฯ ที่กระทรวงการคลังเสนอมาในครั้งนี้กับโครงการเน็ตประชารัฐที่ดำเนินการอยู่แล้ว

2.4 ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลการดำเนินโครงการเพื่อนายกรัฐมนตรีรับทราบในลักษณะข้อมูลออนไลน์ผ่านศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี ตามความเห็นของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

3. ให้กระทรวงการคลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดกลไกการประเมินผลโครงการสวัสดิการแห่งรัฐในภาพรวม เพื่อให้สามารถวัดผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินโครงการ ตลอดจนนำมาประกอบการพิจารณาปรับปรุงรูปแบบการจัดสวัสดิการของภาครัฐในระยะต่อไป


เรื่อง ขอขยายระยะเวลาดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน


คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน และการแก้ไขเพิ่มเติมหลักการในคู่มือการดำเนินโครงการฯ ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ ดังนี้

สาระสำคัญ 1. การขยายระยะเวลาดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ในพื้นที่ตาม โครงการไทยนิยม ยั่งยืน จนถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนมีนาคม 2562
2. การแก้ไขเพิ่มเติมหลักการในคู่มือการดำเนินงานโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ ตาม “โครงการไทยนิยม ยั่งยืน” (หมู่บ้าน/ชุมชนละสองแสนบาท) ดังนี้
2.1 ระยะเวลาดำเนินการ หากมีเหตุผลความจำเป็นที่จะต้องขอขยายระยะเวลาดำเนินโครงการ เดิม “ให้เสนอผู้ว่าราชการจังหวัด/ปลัดกรุงเทพมหานครพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่ต้องไม่เกิน สิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2561” เปลี่ยนแปลงเป็น “ให้เสนอผู้ว่าราชการจังหวัด/ปลัดกรุงเทพมหานคร พิจารณาให้ความเห็นชอบได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ภายในกรอบระยะเวลา ดังนี้


ครั้งที่ 1 เห็นชอบให้ขยายได้ไม่เกินสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 (วันที่ 30 กันยายน 2561)


ครั้งที่ 2 เห็นชอบให้ขยายได้ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2561”

2.2 การให้ความเห็นชอบเฉพาะกรุงเทพมหานครให้ขยายระยะเวลาการจัดส่งแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณให้สำนักงบประมาณภายในวันที่ 30 กันยายน 2561
2.3 การยกเลิกโครงการเดิมและขอเปลี่ยนแปลงเป็นโครงการอันเนื่องมาจาก ภัยพิบัติหรือเหตุผลความจำเป็นอย่างยิ่งที่ไม่อาจทำให้ดำเนินโครงการได้ จะต้องเสนอแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เดิม “ให้กองจัดทำงบประมาณเขตพื้นที่ ภายใน 30 วัน นับแต่หมู่บ้าน/ชุมชนได้รับแจ้งผลการเห็นชอบแผนฯ” เปลี่ยนแปลงเป็น “ให้กองจัดทำงบประมาณเขตพื้นที่/สำนักงบประมาณภายในวันที่ 30 กันยายน 2561”


28 ส.ค. 2561 เวลา 20:53 | อ่าน 6,370


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
เงื่อนไข คุณสมบัติ ครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ มีสิทธิได้รับเงินเดือนละ 3,000 บาท เริ่มยื่นเดือนพฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป
167 19 เม.ย. 2567
ก.พ. เพิ่มอัตราเงินข้าราชการบรรจุใหม่ และข้าราชการเก่า ตรวจสอบคุณสมบัติได้ที่นี่
1,008 15 เม.ย. 2567
รถไม่ค่อยวิ่ง ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอนไหนดี ?
58 13 เม.ย. 2567
นายกฯ ย้ำโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้ถึงพี่น้องประชาชนระดับท้องถิ่นและชุมชน
56 12 เม.ย. 2567
สุริยะ รับข้อสั่งการนายกฯ อำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนช่วงสงกรานต์ 2567 “สะดวก-รวดเร็ว-ปลอดภัย เผยการเดินทางวันแรก (11 เม.ย. 2567) พบการเดินทางคึกคัก อุบัติเหตุลดลง
468 12 เม.ย. 2567
แจ้งข่าวดี กองทุนหมู่บ้าน จับมือ ทิพยประกันภัย แจกประกันภัยอุบัติเหตุฟรีช่วงสงกรานต์ ให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศ คุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท
613 12 เม.ย. 2567
ธอส. ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.105% ต่อปี มอบเป็นของขวัญวันปีใหม่ไทย​ เริ่ม 14 เมษายนนี้
407 12 เม.ย. 2567
ดวงกับดาวประจำวันที่ 7-13 เมษายน 2567
509 8 เม.ย. 2567
สธ.จัดทีม SEhRT เฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพ-คุณภาพ แม่น้ำโขง หลังเกิดเหตุ กรดซัลฟิวริก รั่วไหลที่ลาว
81 6 เม.ย. 2567
​โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ สั่งการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ หลังคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณเที่ยวบินช่วงเทศกาลสงกรานต์ 11 – 17 เมษายน 2567 เพิ่มขึ้น 20%
85 6 เม.ย. 2567
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ซื้อขายรถบ้าน.com
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC Online GED CU-TEP SAT
 
บทความกลุ่มเดียวกัน