การทำนาย ทัศนคติ และความเชื่อของโบราณอีสานเกี่ยวกับการดูลักษณะหรือโฉลกของผู้ชายและผู้หญิง การดูดวงสมพงศ์ของคนที่เลือกจะมาครองคู่กัน บอกเล่าและถ่ายทอดกันมาผ่านวรรณกรรมท้องถิ่นอีสาน
ในยุคที่ยังไม่มีความหลากหลายทางเพศหรือรูปแบบของความรัก มีเพียงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายและผู้หญิงนั้น โบราณอีสานเชื่อว่าผู้ชายและผู้หญิงที่เป็นเนื้อคู่กันเกิดจากสายแนนที่พญาแถนได้กำหนดไว้แล้ว หรือเป็นคู่ครองที่อยู่กินกันมานานหลายภพหลายชาติ หรือบุพเพสันนิวาส
ธวัญชาภาวิ์ ชัยประภา, อธิเทพ ผาทา (2563) กล่าวว่า ในทางพุทธศาสนานั้นเห็นว่าความรักนั้นเกิดมาจากสาเหตุหลัก 2 ประการ คือ เกิดมาจากบุพกรรมหรือกรรมเก่าในอดีตชาติที่คนสองคนอธิษฐานมาร่วมกัน และเกิดจากความใกล้ชิดสนิทสนมกันในชาติปัจจุบัน
โบราณอีสานนั้นได้ให้ความสำคัญกับการเลือกคู่ครอง เพื่อให้ผู้ชายและผู้หญิงที่จะมาอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวครองคู่กันได้อย่างยาวนาน อุปถัมภ์ค้ำจุนกันให้มีความเจริญรุ่งเรืองจนแก่เฒ่าไปด้วยกัน จึงมีการสังเกตและเก็บข้อมูลการเลือกคู่ไว้ ไม่ว่าจะเป็นการดูลักษณะของผู้ชายหรือผู้หญิงที่ดีและไม่ดี การดูดวงความสมพงศ์กัน โดยถ่ายทอดและสืบสานกันมาผ่านวรรณกรรมอีสานเรื่องต่าง ๆ
หนุ่มนักดนตรีเกี้ยวสาวทอผ้า ภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดบูรพาปะอาวเหนือ จังหวัดอุบลราชธานี แสดงวิถีชีวิตของหนุ่มสาวชาวอีสานที่จะมีโอกาสได้พบปะกันในช่วงเย็น ผู้ชายเล่นดนตรีจ่ายผญา จีบเกี้ยวผู้หญิงที่กำลังทอผ้า
การเลือกคู่ครองในวรรณกรรมอีสาน เรื่อง ธรรมดาสอนโลก
ชัยณรงค์ อกอุ่น (2554) กล่าวไว้ว่า ผู้ชายและผู้หญิงที่มาสมสู่อยู่ครองคู่กันเป็นสามีภรรยา โบราณว่าเกิดมาจากเคยอยู่ร่วมกันในชาติปางก่อน หรือได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ซึ่งในวรรณกรรมอีสาน เรื่อง ธรรมดาสอนโลก ได้ปรากฏข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกคู่ครองไว้ ดังนี้
1. ชายหญิงที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ ควรเลือกเป็นคู่ครองแล้วให้ทำตามประเพณี และต้องเคารพผี (ค้ำ) เรือน ถ้าไม่ทำมักเกิดโทษไม่ตายก็หย่าร้างหาความสุขความเจริญไม่ได้
2. ชายหญิงที่พ่อแม่ตายแล้ว ไม่ควรเลือกเป็นคู่ครอง ถ้าจำเป็นได้เลือกให้ปลูกปะรำนอกเรือน และ สมมาโคตรวงศ์ที่นั่นจักอยู่เย็นเป็นสุข ถ้าไม่ทำดังกล่าวมาจักเกิดโทษ ไม่เป็นหม้ายก็ หย่าร้าง ไม่มีความเจริญรุ่งเรือง
3. ชายหญิงที่พ่อตายแล้ว ไม่ควรเลือกเป็นคู่ครอง ถ้าเลือกจักเกิดเป็นโทษแก่ตนเองและบริวาร หาความสุขกายสบายใจไม่ได้แล
4. ชายที่พ่อตาย และหญิงที่แม่ตาย ไม่ควรเลือกเป็นคู่ครอง ถ้าเลือกจักเกิดโทษ ไม่ตายก็หย่าร้าง หรือจักเป็นอันตราย แก่ลูกที่เกิดมา
5. ฝ่ายหนึ่งยากจนฝ่ายหนึ่งมั่งมี ควรเลือกเป็นคู่ครอง ถ้ายากจนทั้งสองฝ่ายไม่ควรเลือกเป็นคู่ครองเลย จักทุกข์ยากลำบากแล
หญิงคนใช้ในเรือน หรือหญิงที่ชอบเล่นหอก ดาบ หลาว แหลมไม่ควรเลือกเป็นคู่ครอง เพราะจะนำความวิบัติมาสู่ตนแล
6. พญาเอาคนใช้เป็นคู่ครองจักเกิดความฉิบหายแล
7. เอาลูกสาวเป็นคู่ครองจักเข็ดขวาง พินาศ ฉิบหายมากนักแล
8. เอาทาสเป็นคู่ครองจักเกิดความฉิบหายแล
การดูลักษณะ (โฉลก) ของผู้ชายและผู้หญิงในวรรณกรรมอีสาน ตำราโฉลกชายดีและชั่ว โฉลกหญิงดีและชั่ว
สุมาลี พลขุนทรัพย์ (2558) กล่าวถึง ลักษณะที่ดีและไม่ดีของผู้ชายและผู้หญิง จากวรรณกรรมคำกลอนอีสานเรื่อง “ตำราโฉลกชายดีและชั่ว โฉลกหญิงดีและชั่ว” ดังนี้
ลักษณะ(โฉลก)ผู้หญิงดี
1. หญิงใดหน้าแซ่มซ้อยฮูปฮ่างเบาบาง เลาคิงงามสวยเทิงเมือหน้า แขนขาพร้อมแอวกลมสมส่วน เนื้ออ่อนอ้วนผิวผ่องส่องใส ยามเมื่อลีลาย้ายไปมาดูเสงี่ยม เหลียวเบิ่งวางวาดไว้นางน้อยค่อยไป หญิงอย่างนี้ถูกโแลกหลายประการ ควรจักเป็นนางคานแม่เมืองจริงแท้
ความหมาย ผู้หญิงที่มีหน้าตาสดสวยแช่มช้อย รูปร่างแบบบาง เอวกลมอวัยวะสมส่วน แขนขนกลมกลึง ผิวพรรณผ่องใส เวลาเดินก็สงบเสงี่ยม ผู้หญิงที่มีลักษณะแบบนี้มีโฉลกดี สมควรได้มาเป็นแม่บ้านและแม่เมือง
2. หญิงใดเอเลท้องพุงหลวงอุ้มบาตร โฉมฮูปฮ้ายบุญเจ้าหากมี หญิงนี้ทรัพย์มากเหลือหลาย เงินคำนับโกฏ กือกองล้น ไผลงหลงพ้อมอมเอาช้อนเสื่อ ก็เพื่อบุญก่อสร้างหลังพุ้นส่งนำ
ความหมาย ผู้หญิงที่พุงพลุ้ยเหมือนพระอุ้มบาตร แม้ว่ารูปโฉมไม่สวยแต่เป็นผู้มีบุญ และจะมีทรัพย์สินมากมายมหาศาล หากว่าใครได้หญิงเช่นนี้มาเป็นภริยาก็เพราะมีบุญที่เคยสร้างสมไว้แต่เก่าก่อน
3. หญิงใดเนื้อแจบแน่นสายพาดเบนโต ตีนมืองานตอบกลับกลมเกลี้ยง สนพาวเพี้ยงพองามสูงต่ำ ผมเกษเกล้าดำเหลื่อมดั่งเทา หญิงนี้มีบุญควรเอาซ้อนเสื่อ เพิ่นว่าเป็นผู้ฮู้สอนได้เชื่อฟังแท้แหล่ว
ความหมาย ผู้หญิงใดผิวเนื้อเนียนแนบแน่น มีมือเท้ากลมเกกี้ยงงามสมส่วนไม่สูงไม่ต่ำ มีเส้นผมดำสลวยเป็นเงางามดั่งเทา หญิงเช่นนี้เป็นคนมีบุญควรมาหาเป็นภริยาเพราะว่าเป็นคนว่านอนสอนง่าย
4. หญิงใดเนื้อก่ำเกลี้ยงสูงต่ำพอประมาณ มีสีใสส่องเงางามล้วน ผิวนวลเนื้อนงนางผุดผ่อง นุ่งซิ่นแล้วงาม ค่องเตียะเอียะ ทรงเป็ดเดินล่ามลงทางท้าย หญิงฮูปนี้ใจซื่อประสงค์ตั้งตรงต่อผัว แม่นสิเป็นเมียไผก็บ่หลอนพอฮ้าย
ความหมาย ผู้หญิงคนใดผิวเกลี้ยงนวลผุดผ่อง ความสูงพอประมาณ รูปร่างดีนุ่งผ้าถุงสวย เวลาเดินเหมือนเป็ด ผู้หญิงแบบนี้มีความซื่อสัตย์ภักดีต่อสามี
5. หญิงใดคอกลมป้องหางตาแดงสักสะหน่อยขี่แมงวันจับสบเบื้องซ้ายสมบัติมากมีบุฯ มันจักเป็นเมียขุนคิดการเมืองบ้านเจ้าเอย
ความหมาย ผู้หญิงใดมีคอกลมงาม โดยคอด้านหน้ามีรอยเส้นคล้ายมีอะไรรัด แต่ไม่ได้เป็นรอยชัดมากนัก เป็นรอยพอสวยงาม ตรงหางตา จะมีสีแดงเรื่อย ๆ มีขี้แมลงวันที่ริมฝีปากด้านซ้าย เป็นผู้มีบุญมาก จะได้เป็นภริยาท่านขุนมูลนายผู้ปกครองบ้านเมือง
6. หญิงใดเบิ่งเสิ่งหน้าคือบั้งไฟหมื่น ฮูปฮ่างนั้นโต สั่นไหล่บาน บ่ซ่างปากด้านคำหยาบหยามหู ฮู้จักมีคำอดต่อคน ทั้งค้าย หญิงฮูปนี้ใจฉลาดแท้ฮู้ฮึดครองขุน ควรให้เป็นนางกวนสืบแทนความเว้า
ความหมาย ผู้หญิงที่มีใบหน้ากว้างใหญ่ มีรูปร่างสั้นไหล่ผายเป็นคนไม่ช่างพูด โดยเฉพาะคำหยาบคายและเป็นคนที่มีน้ำอดน้ำทน หญิงเช่นนี้เป็นผู้หญิงที่ฉลาดรอบรู้ในเรื่องจารีตประเพณี กฎหมายควรที่จะได้เป็นผู้บริหารหน่วยงานต่าง ๆ
7. หญิงใดใบหูเหียนดังหยุดจักสะหน่อย หญิงนั้นเป็นแม่ค้าก็ยังได้สืบทุนเจ้าเอย
ความหมาย ผู้หญิงคนใด ใบหูสั้น จมูกบี้ หญิงนั้น หากเป็นแม่ค้าก็พออยู่ได้ไม่ถึงกับรวบแต่ไม่ขาดทุน
8. หญิงใดขาวเหลืองเพี้ยงบางตองเนื้อค่อง ผมเส้นน้อยดำปี้อ่อนนวล แขนขานั้นยาวหลายแพนอ่อน หญิงฮูปนี้ทรัพย์มากล้นเศรษฐีเจ้าก็บ่ปานแท้แหล่ว
ความหมาย ผู้หญิงคนใดมีผิวพรรณขาวเหลือง มีรูปร่างผอมบาง มีเส้นผมดำอ่อนสลวย แขนชายาวกลมอ่อน ผู้หญิงแบบนี้เป็นผู้มีทรัพย์มากยิ่งกว่าเศรษฐีทั้งหลาย
9. หญิงใดหลังตีนขึ้นเสมอดองเต่าเพ็ค ฮูปฮ่างพร้อมพอเพี้ยงพร่ำเสมอ หญิงนี้มีบุญแท้ทำอันใดก็เฮืองฮุ่งเฮ็ดได้แต่ละน้อย ผลนั้นเล่าหลายแท้แหล่ว มันก็ใจฉลาดแท้ฮู้บ่อนเบาหนัก เป็นคนศีลและทานต่อไปภายหน้า ไผผู้อมเอาได้เป็นเมียเทียมแทบ ก็หากดีเที่ยงแท้เมือหน้าต่อไปเจ้าเอย
ความหมาย ผู้หญิงคนใด หลังเท้าอวบอูม นูนคล้ายกระดองเต่า หญิงนั้นเป็นผู้มีบุญ จะทำกิจการงานใดก็เจริญรุ่งเรือง เป็นคนฉลาด รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา เป็นคนมีศิลมีทำทาน หากใครได้เป็นภริยาจะดีต่อไปในภายหน้า
10. หญิงใดหนังโตอ้วนท้องใหญ่สมบัก จัดว่าเป็นดีต่อไปภายหน้า
ความหมาย ผู้หญิงที่มีท้องใหญ่ ถือว่ามีโฉลกดี
ลักษณะ(โฉลก)ผู้หญิงไม่ดี
1. หญิงใดจินจิกเกล้าผมแดงทางหน้าผาก หญิงฮูปนั้นเคยม้างศาสนา อย่าได้เอามาซ้อนเป็นเมียเทียมแทบตั้ง เป็นหญิงบาปฮ้ายบ่มีฮู้ฮ่อมสังแท้แหล่ว
ความหมาย ผู้หญิงคนใดหัวเถิกนิดหน่อย ผมด้านหน้าผาก โดยเฉพาะไรผมมีสีแดง หญิงนั้นเคยทำลายศาสนา ไม่ควรเลือกมาเป็นภรรยา
2. หญิงใดขนตาผั่นแหงนปลายยาวยิ่ง หญิงนี้ฮู้ขีคร้านเจ็นฝ้ายมักนอน อย่าได้เอาซ้อนเป็นเมียเทียมแทบ มันสิพาทุกข์แท้เมือหน้าจุ่มเจ้าเอย
ความหมาย ผู้หญิงคนใดขนตาเรียวปลายแหลมงอน หญิงนั้น เป็นคนเกียจคร้าน ชอบนอน ใครได้เป็นคู่ครองจะไม่เจริญ
3. หญิงใดผมดำปี้เป็นดั่งขนหมี มองสีสันเส้นขนแขงแท้ หญิงอย่างนี้มันก็โมหังแท้โมโหกว่าเพิ่น ให้พากันหลีกเว้นหญิงนี้แต่ไกลเจ้าเอย
ความหมาย ผู้หญิงคนใดมีเส้นผมดำสนิทราวกับขนหมี เส้นผมแข็ง หญิงแบบนี้เป็นคนโมโหร้าย ให้หลีกเลี่ยง
4. หญิงใดอืดลืดเนื้อโตสาบกุยเหม็น ทั้งตัวหนาดั่งหนังควาย เนื้อบ่เกลี้ยงหยาบยิ่งเหลือประมาณ มันเป็นหญิงสาธารณ์บ่ดีจริงแท้
ความหมาย ผู้หญิงคนใดเนื้อตัวมีกลิ่นเหม็นสาบ ผิวหนังหยาบเหมือนหนังควายผู้หญิงเช่นนี้เป็นหญิงไม่ดี
5. หญิงใดอูทู้หน้านามหมาสอนยาก ให้หลีกเว้นหญิงนั้นแต่ไกลเจ้าเอย
ความหมาย ผู้หญิงคนใดหน้าบึ้งตึงเป็นคนที่สั่งสอนยาก ควรหลีกเลี่ยง
6. หญิงใดผมเป็นส่อยยอยหูเป็นกีบ หญิงนั้นทุกข์เท่าเฒ่าเถิงเท่าชั่วชีวังพุ่นแหล่ว
ความหมาย ผู้หญิงคนใดมีจอนผมยาว หญิงเช่นนี้มีความทุกข์ตลอดชีวิต
7. หญิงใดโคดโลดป้งแข่งใหญ่ขาทึม ตัณหาในสงสารบ่อาจเทียมมันได้
ความหมาย ผู้หญิงคนใดโคนขาและน่องขาใหญ่ เป็นคนมรตัณหามาก
8. หญิงใดฮูปฮ่างน้อยตาเหลือกขาวเหลือง มันเป็นคนเสเพลเที่ยวหาเงินจ้าง อย่าได้เอามาซ้อนเป็นเมียเทียมแทบ มันจักคิดโลภเลี้ยวเมือหน้าบ่ดีเจ้าเอยฯ
ความหมาย ผู้หญิงคนใดมีรูปร่างเล็ก ตาเหลือก ผิวขาวเหลือง เป็นที่ชอบเที่ยวเสเพล ไม่ควรเอามาเป็นภรรยา หญิงแบบนี้เป็นคนโลภและคิดคดในภาคหน้า
9. หญิงใดนมสี่เต้าเชื้อชาตินามหมา มันหากเป็นคนจรเที่ยวหาชายชู้เจ้าเอย
ความหมาย ผู้หญิงคนใดมีนมสี่เจ้าเข้าลักษณะของสุนัข หญิงนั้นเป็นคนมีจิตใจชั่วร้าย แม้จะทำการงานใด ๆ ก็ไม่เจริญรุ่งเรือง มักคบชู้สู่ชาย
10. หญิงใดโขโมหน้าด้งใหญ่เหมือนชาย ทรงงามสวยเหยียด มือเหียนก้วย เว้าเสียงน้อยเสียงใหญ่ลน ๆ เป็นคนกดข่มผัวเป็นข่อย หญิงอย่างนี้ให้เว้นหลีกหนีไกลเป็นขุนนางก็จึงเอามันได้
ความหมาย ผู้หญิงคนใดหน้าใหญ่เหมือนผู้ชาย รูปร่างสวยมือสั้น พูดจาทำเสียงเล็กเสียงใหญ่ ดูลน ๆ เป็นผู้หญิงที่ชอบข่มสามี ไม่ให้เกียรติสามี ควรหลีกหนีให้ไกล เว้นแต่ขุนนางถึงจะควบคุมผู้หญิงแบบนี้ได้
ลักษณะ(โฉลก)ผู้ชายดี
ตามวรรณกรรมกล่าวว่า ต้องเป็นผู้มีบุญ มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ชายเช่นนี้หากหญิงใดเป็นคู่ครองจะมีแต่ความสุข ความเจริญ มั่งมีเงินทอง ตัวอย่างเช่น
1. ชายใดขาวเหลืองเพี้ยงผิวนวล ๆ ยอดอึอ่อน หญิงใดอยู่ซ้อนปานกั้งห่มเขียวเจ้าเอย
ความหมาย ผู้ชายคนใดผิวพรรณขาวเหลืองเหมือนดอกฟักทองอ่อน ๆ หญิงใดได้ชายเช่นนี้มาเป็นสามี จะมีแต่ความสุข ความร่มเย็นประหนึ่งกางร่มเขียว
2. ชายใดดำแดงสิ่วผิวกาเนื้อก่ำ ๆ ชายนี้บุญมากล้นเหลือล้ำหลื่นคนแท้แหล่ว
ความหมาย ผู้ชายคนใดมีผิวพรรณขาวแดง เป็นผู้มีบุญมาก
3. ชายใดโฉมพ้าวเพี้ยงขาวแดงเนื้ออ่อน เนื้ออ่อนอ้วนปานฝ้ายดีดผง หญิงใดเข้าอยู่ซ้อนสุขยิ่งหนักหนา หาคนในโลกาบ่เปรียบปูนปานได้
ความหมาย ผู้ชายคนใดมีผิวพรรณแดงขาว และมีเนื้อเนียนนวลดั่งปุยฝ้าย หญิงใดเป็นสามีจะมีความสุขกว่าใคร ๆ ในโลก
4. ชายใดลุกย่างย้ายกวยแขนสวดกายโต ทรงงามสวยก่วยโตเมือหน้า หญิงใดได้อยู่ซ้อนทิพอาจผลาหลายเงินคำนับอะเนกนองเหลือล้น
ความหมาย ผู้ชายคนใดเวลาเดินสง่างาม แกว่งแขนไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอ หญิงใดได้ชายเช่นนี้เป็นสามี จะมั่งมีเงินทองมากมาย
5. ชายใดหูกลมส่วยดังคมหน้าเน่ง ชายฮูปนี้เป็นนักปราชญ์ แท้ผลาล้ำโลกลือแท้แหล่ว
ความหมาย ผู้ชายคนใดมีใบหูกลมและเรียวยาว มีจมูกโด่ง ชายเช่นนี้เป็นผู้รอบรู้หรือเป็นนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียง
6. ชายใดสูงโก่มโก้ยฮูปฮ่างปลาตองกาย เป็นชายรูปฮูปโฉมพระยาเจ้า ยามเมื่อปากกล่าวต้านจ๊าก ๆ เสียงดัง คนทั้งหลายอ่อนหูฟังได้ ชายฮูปนี้เป็นแนวเชื้อนามหน่อเศรษฐีหลวง มีบุญหลายกว่าคนทั้งค้าย
ความหมาย ผู้ชายคนใดรูปร่างสูงใหญ่ดูเก้งก้าง เป็นชายรูปงามดั่งเข้าพระยา เวลาพูดขาเสียงดังกังวาน คนทั้งหลายได้ฟังต่างเชื่อฟังยำเกรง ชายแบบนี้มีเชื้อสายเศรษฐี เป็นผู้มีบุญมากกว่าคนทั้งหลาย
7. ชายใดปากกว้าง ๆ สบมีหนวดเครา ชายนี้ทำการจบชุ่มเย็นเมือหน้าแท้แหล่ว
ความหมาย ผู้ชายคนใดปากกว้าง ริมฝีปากมีหนวดและเคราดก ชายเช่นนี้แม้นจะทำการใดก็จะได้รับความสำเร็จและอยู่เย็นเป็นสุข
8. ชายใดออดหลอดเนื้อเกลี้ยงก่ำดำดี ยามเมือพาทีจาอ่อนหูคึค้อย ชายนั้นหญิงใดได้สบานใจทุกสิ่งหากจักลุลาภได้ของเข้ามั่งมูลเจ้าเอย
ความหมาย ผู้ชายคนใดมีผิวดำเนื้อเนินแนบแน่น พูดจาอ่อนหวาน สุภาพเรียบร้อย หากหญิงใดได้ชายเช่นนี้เป็นสามี จะมั่งมีศรีสุข
9. ชายใดเอเลท้าวขาวพองเนื้อซุ่ม ชายนั้นบุญมากกุ้มกวมพื้นแผ่นดินแท้แหล่ว
ความหมาย ผู้ชายคนใดรูปร่างท้วมพุงใหญ่ ผิวขาวเนื้อนุ่ม ชายเช่นนี้เป็นคนมีบุญมาก
10. ชายใดดำแดงเนื้อเอวกลมคิ้วก่อง ชายนั้นฝูงพี่น้องคอยย้อยเพิ่งบุญ หญิงใดได้เป็นเจ้าหมู่แท้แหล่ว ชายนั้นใจฉลาดล้ำเฮียนฮู้สู่อันเจ้าเอย
ความหมาย ผู้ชายคนใดมีผิวเนื้อดำแดง รูปร่างเอวกลม คิ้วโก่ง ชายเช่นนี้จะได้เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด และจะเป็นที่พึ่งพาอาศัยของญาติพี่น้อง
เป็นข้อสังเกตว่า ชาวอีสานนิยมผู้ชายที่มีผิวพรรณดี ไม่ว่าผิวสีขาวเหลือง ขาวแดง ดำแดง ก็ตามขอให้ผิวเกลี้ยงนวลเนียน ถือว่าเป็นผู้ชายที่มีโฉลก และผู้ชายโฉลกดีต้องมีทีท่าสง่าผ่าเผย ไม่ว่าชายผู้นั้นจะอ้วนท้วนสมบูรณ์ หรือผอมเพรียว นอกจากนี้มีความเชื่อเรื่องโฉลกดีของชาวอีสาน บางอย่างยังพ้องกับความเชื่อเรื่องลักษณะของคนหรือที่ชาวจีนเรียกว่า “โหงวเฮ้ง” ดังเช่น โฉลกดี กล่าวว่า “ชายใดหูกลมส่วยดังคมหน้าเน่ง ชายฮูปนี้เป็นนักปราชญ์ แท้ผลาล้ำโลกลือแท้แหล่ว” โหงวเฮ้งที่ดี กล่าวว่า “ถ้าหูกลมพอดีกับใบหน้า ท่านว่าเป็นผู้นั้นมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด”
ลักษณะ(โฉลก)ชายไม่ดี
ตามวรรณกรรมกล่าวถึงความประพฤติที่ไม่ดี ทั้งเรื่องการเป็นผู้ชายรักสนุก ไม่เอาการเอางาน ชอบลักขโมย เกียจคร้าน ผู้ชายเช่นนี้ไม่ควรเลือกมาเป็นคู่ครอง เพราะผู้ชายถูกคาดหวังว่าต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว จึงต้องมีความรับผิดชอบ ตัวอย่างเช่น
1. ชายใดโปโลหน้าคิ้วใหญ่คนหนา ชายนั้นเป็นคนถงเที่ยวเฮกลางบ้าน มันหากเป็นเล่นแลงงายบ่เตื้องต่อ หญิงใดได้พบพ้อน้ำตาย้อยอยู่เลิง
ความหมาย ผู้ชายคนใดรูปร่างใหญ่คิ้วหนา ชายคนนั้นชอบเที่ยวสนุกสนาน เป็นคนรักสนุก หากหญิงใดได้เป็นคู่ต้องน้ำตาตก
2. ชายใดอูทู้หน้านามหมาสอนยาก ชายนั้นใช้บ่ได้การเจ้าบ่ดี หญิงใดได้ฮูปนี้สิยากยิ่งหนักหนา มันสิพาเฮาทุกข์ยากก็ใจบ่มีแล้ว
ความหมาย ผู้ชายคนใดหน้าบึ้งตึงเป็นคนสั่งสอนยาก ชายผู้นั้นเป็นคนไม่เอาการเอางาน หากหญิงใดได้เป็นคู่จะลำบากใจ จะมีแต่ความทุกข์
3. ชายใดโปโลหน้าผีสบโปปากโผ่ มันหากปากพลิกปลิ้นโลภหล่ายบ่มีศิล หาผู้เอาความมันถ่องความบ่มีได้
ความหมาย ผู้ชายคนใดริมฝีปากยื่น เป็นคนไม่มีศิล พูดจาเชื่อถือไม่ได้
4. ชายใดจอนจอหน้าสบแหลมคือปลาจอก ฮูปฮ่างน้อยหัวเถิกเมือหลัง มันเป็นคนสอพลอส่อสนความเว้า
ความหมาย ผู้ชายคนใดมีผมจอนยาว หน้าแหลมเหมือนปลาจอก รูปร่างเล็กศีรษะเถิก เป็นคนวาจาสอพลอ
5. ชายใดมนอุ้มปุ้มโตใหญ่คือหมู มันหากโลความกินบ่ปากหาไผแท้ บ่คิดเถิงลุงป้าอาวอาพาอแม่ ว่าแต่ได้ใส่ท้องโตแล้วก็ส่วนพอ
ความหมาย ผู้ชายคนใดรูปร่างกลมป้อม ตัวอ้วนใหญ่เหมือนหมู เป็นคนที่ทำมาหากินพอเลี้ยงตัวได้แต่ไม่เผื่อแผ่เลี้ยงดูพ่อแม่ญาติพี่น้อง เห็นแก่ตัว หากินพอเลี้ยงจตัวรอด
6. ชายใดซงหน้าเฒ่าแอวยาวดูกข้างยะ ตั้งขี้คร้านทั้งเล่นมักนอนแท้แหล่ว
ความหมาย ผู้ชายคนใดหน้าแก่ เอายาวผอมจนมองเห็นกระดูก เป็นคนเกียจคร้านมีแต่นอน
7. ชายใดโขโมหน้าดังใหญ่โขโม มันหากเป็นคนพาลเสี้ยนหนามแผ่นดินแท้
ความหมาย ผู้ชายคนใดหน้าตาหน้ากลัว จมูกใหญ่ผิดรูป เป็นคนพาลเป็นอัตรายต่อแผ่นดิน
8. ชายใดกระโลกกระเลกเต้นฟ้าวฟั่งไปมา มันหาทำซงซ้ำกิริยาเพศต่าง เป็นเบื้องป้างนิ้วมือสั่นข้อหมากขาม ตีนป้องสั่นหัวปลายตีนซ้ำผั่นหล่อย มันหากเป็นขโมยลักเล็กน้อยตามบ้านอยู่บ่เซา
ความหมาย ผู้ชายคนใดกิริยาลุกลี้ลุกลน ไม่สงบเสงี่ยม นิ้วมือนิ้วเท้าเหมือนข้อมะขาม จะมีนิสัยชอบลักเล็กขโมยน้อยตามหมู่บ้าน
9. ชายใดกระซุบกระซาบเว่าซิบส่ำในหู หาแต่ความบ่ดีส่อสนเมือหน้ามันจักตายโหงแท้ภายลุนต้องเจ้าเอย
ความหมาย ผู้ชายคนใดเวลาพูดกระซิบกระซาบ ชอบพูดจาส่อเสียดใส่ร้ายผู้อื่น พูดในทางที่ไม่ได้ ทำนายว่าภายหน้าจะตายโหง
10. ชายใดหัวแหลมขึ้นเทิงฮอดกระหม่อม ใจฉลาดแท้ขายค้าสู่อัน ชายฮูปนี้โลภหลายบ่มีศีล มันหากเลิง ๆ ตั๋วสู่อันเอาเลื้อย
ความหมาย ผู้ชายคนใดหัวแหลม เป็นคนฉลาดในการค้าขาย แต่เป็นคนโลภไม่มีศีล ชอบพูดจาโกหกหลอกลวงเรื่อยไป
ครอบครัวอีสาน ภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดทุ่งศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
การดูลักษณะ (โฉลก) ของผู้ชายและผู้หญิงในวรรณกรรมอีสาน ท้าวกำพร้าคำสอน
สุมาลี พลขุนทรัพย์ ได้รวบรวมจากวรรณกรรมอีสานเรื่อง ท้าวกำพร้าคำสอน
ลักษณะ(โฉลก)ผู้หญิงไม่ดี
1. หญิงใดแบแยหน้าคือทรงสิไห้ต่อ หญิงนั้นต่อถ่อยฮ้ายคำส้มบ่เหือดคิงแท้ดาย ไผผู้โอมเอาได้เป็นเมียสอนยาก มันท่อเฮ็ดยือยื้อความฮู้บ่มี หญิงนั้นแม่นสิงามยิ่งย้อยปุนเปรียบสาวสวรรค์ก็ดี จงเอาใจหนีหลีกไกลกลอยเว้น”
ความหมาย ผู้หญิงที่มีหน้าตาโศกเศร้าเหมือนว่าจะร้องไห้ ว่าเป็นคนสั่งสอนยาก เป็นคนไม่สู้ฉลาด ถึงแม้หญิงผู้นั้นจะหน้าตาสวยงามก็ไม่ควรเอามาเป็นภรรยา” ถือเป็นการพิจารณาแบบคาดคะเนเอาเอง กล่าวคือ คนที่มีใบหน้าเศร้าหมองมักถูกมองว่าเป็นลักษณะที่ไม่ดี ดูคล้ายกับคนอมทุกข์ แม้หญิงหน้าตาสะสวยแต่ไม่ถูกโแลก คนอีสานก็ไม่ชื่นชม
2. หญิงใดนมยานเท้าลงเถิงท้องหย่อน หญิงนั้นเลี้ยงลูกเต้าเนามั่นแผ่ผาย ไผผู้โอมเอาได้เป็นเมียแวนประเสริฐจริงแล้ว แม่นว่าฮูปฮ้างฮ้ายก็ควรเอาให้ไถ่เอาท้าวเอย”
ความหมาย ผู้หญิงที่มีลักษณะทางกายภาพที่สามารถให้นมบุตรได้ดี จะถือว่ามีโฉลกดี จิตใจดี และมีลักษณะนรลักษณ์ดีตามคตินิยมหรือความเชื่อของท้องถิ่น
ลักษณะ(โฉลก) ของผู้ชายไม่ดี ชาวอีสานจะไม่นิยมผู้ชายใจนักเลง คนพาล หัวขโมย คนไม่มีศิลธรรม ผู้ชายที่ไม่ควรเลือกมาเป็นคู่ครองมีทั้งผู้ชายหน้าใหญ่ คิ้วหนา ปากแหลม หน้าแก่ หัวเถิก ฟันเหยิน ผู้ชายที่ไม่สงบเสงี่ยม ท่าทางลุกลี้ลุกลน รูปร่างราวกับมะขามข้อเดียว มีความเชื่อว่า บุคลิกแบบนี้เป็นคนไม่น่าไว้วางใจ คบยาก เป็นลักษณะของโจรที่ชอบลักเล็กขโมยน้อย
ผู้ชายและผู้หญิงที่มีหน้าตาบูดบึ้งเข้าลักษณะโฉลกชั่วและถูกทำนายอุปนิสัยว่าเป็นคนสั่งสอนยาก
การดูลักษณะ(โฉลก)ของผู้ชายและผู้หญิงในวรรณกรรมอีสาน ท้าวคำสอน
ในวรรณกรรมอีสานเรื่องท้าวคำสอนได้บอกถึงลักษณะของผู้หญิงที่ผู้ชายควรจะเลือกภรรยาเพื่อทำให้ชีวิตคู่มั่นคง ตัวอย่างเช่น
1. ให้เลือกเอาผู้หญิงที่ทำอาหารอร่อย ซึ่งเชื่อว่าผู้หญิงเป็นผู้มีวาสนาดีเหมาะสมที่จะได้เป็นภรรยา ดังคำกลอนที่ว่า
“ญิงใดทำกินพร้อมพอเกลือพอปลาแดก ญิงนั้นเป็นข่อยท่านฮ้อยชั้นก็ควรให้ไถ่เอาท้าวเอย”
ความหมาย หญิงใดทำอาหารอร่อยพอเกลือพอปลาร้า หญิงนั้นเป็นทาสรับใช้ท่านร้อยชั้นควรให้ไถ่เอามาเป็นภรรยาท้าวเอย
2. หญิงใดมีริมฝีปากดำ มีความเชื่อว่าจะเป็นคนโลเลในรักในตัณหาและมีจิตใจต่ำไม่ควรเอามาเป็นภรรยา
3. หญิงใดที่มีเท้ามือสวยงาม แต่ต้นขาและหน้าแข้งใหญ่ทึบ เชื่อว่าจะเป็นคนโลภโมโทสัน ทำงานอะไรไม่ค่อยรุ่งเรือง
4. หญิงใดมีใบหน้างอหักเหมือนเคียว ก็มีความเชื่อว่าจะเป็นคนที่พบแต่ความยากจนในภายหน้าไม่ควรนำมาเป็นภรรยา
5. หญิงใดที่ฟันหน้ายาวเกินไป ไม่เป็นปกติ มีความเชื่อว่าจะเป็นคนเลี้ยงลูกไม่เป็น ดังนั้นจึงไม่ควรนำมาเป็นภรรยา
6. หญิงใดที่มีรูปทรงกลมหน้าอกใหญ่แต่ตะโพกเล็ก มีความเชื่อว่าหญิงนั้นเป็นคนมีกรรม จะพบแต่ความทุกข์ความเศร้าอยู่ตลอดไป
7. หญิงใดที่มีใบหูสั้น และมีผมสีดำสวยงาม มีความเชื่อว่าหญิงคนนั้นจะเป็นคนทำมาค้าขายเจริญก้าวหน้า ควรเลือกเอามาเป็นภรรยา
8. หญิงที่มีลักษณะหลังเท้าสูงเหมือนหลังเต่า มีความเชื่อว่าหญิงคนนั้นจะเป็นคนมีความชื่อสัตย์ต่อสามี ทำการสิ่งใดก็เจริญรุ่งเรือน
9. หญิงใดที่เวลาพูดแล้วยิ้มไปด้วยหรือยิ้มก่อนแล้วค่อยพูด มีความเชื่อว่าหญิงคนนั้นเป็นคนมีบุญใครได้มาเป็นภรรยาก็จะมีความสุข
10. หญิงคนใดเป็นหม้ายสามผัวอย่าได้เอามาร่วมเรือนเป็นภรรยา และชายคนใดที่บวชแล้วสึกถึงสามครั้งก็อย่าได้นำมาเป็นเพื่อนสหาย เพราะหมายถึงการเป็นคนที่มีจิตใจไม่แน่นอนทำอะไรไม่ค่อยจริงจังไม่ควรนำเอามาเป็นเพื่อนและสามีหรือเอามาเป็นภรรยา
สมพงศ์นาค ภาพจาก https://thaiza.com/horoscope/belief/247777/
วิธีการดูดวงชะตาสมพงศ์นาค
ผู้ชายให้นับปีชวดเร่ิมที่หัวนาคไปทางหางนาค นับไปจนถึงปีเกิดของตน ผู้หญิงให้นับปีชวดเริ่มที่หางนาคไปทางหัวนาค นับไปจนถึงปีเกิดของตน ตกที่ตำแหน่งใดก็ทำนายไว้ ดังนี้
• ถ้าตก หัวนาคตัวเดียวกัน ท่านว่าดีนักแล
• ถ้าตก หัวนาคทั้งสองคน แต่ต่างตัวกัน ท่านว่าจะหย่าร้างกัน
• ถ้าตก กลางตัวนาคทั้งสองและตัวเดียวกัน ท่านว่าดี จะมั่งมีศรีสุข
• ถ้าตก กลางตัวนาคทั้งสองคน แต่ต่างตัวกัน ท่านว่าไม่ดี จะตายจากกันแต่ยังไม่ถึงเวลาอันคาร
• ถ้าตก หัวนาคและหางนาคตัวเดียวกัน ท่านว่าดีปานกลาง
• ถ้าตก กลางตัวนาคทั้งสองคน และเป็นศูนย์เดียวกันด้วย ท่านว่าไม่ค่อยดี
• ถ้าตก ที่หัวนาค กลางนาค และหางนาคตัวเดียวกันและเป็นศูนย์เดียวกัน ท่านว่าไม่ดีจะได้รับความลำบาก
วันที่ดวงชะตาสมพงศ์กัน
โบราณอีสาน ได้กำหนดวันสมพงศ์เป็นมิตรและเป็นคู่ครองกันไว้ดังนี้
พุธ ก็หากฮ่วมห้องจาเจ้าแจ่มพระจันทร์ พฤหัส บาทไท้เว้าแม่นอาทิตย์ ศุกร์ เฮียงคารนิมิตร กันจาต้าน เสาร์ สถิตย์ใกล้ราหู เฮีงพ่าง
อธิบายว่า
“วันพุธคู่กับวันจันทร์ วันพฤหัสบดีคู่กับวันอาทิตย์ วันศุกร์คู่กับวันอังคาร วันเสาร์คู่กับวันราหู (วันพุธกลางคืน) ถ้านอกจากคู่นี้ทำนายว่าไม่สมพงศ์กัน”
ปีที่ดวงชะตาสมพงศ์กัน
จากการสืบค้นตำราหมอดูอีสานของสวิง บุญเจิม นั้นยังไม่พบหลักฐานการจดบันทึกว่าเดือนใดที่มีดวงชะตาสมพงศ์กัน มีแต่วันและปีเท่านั้น ซึ่งปีที่ดวงชะตาสมพงศ์กันเหมาะจะเป็นมิตรหรือเป็นคู่ครองที่ดีนั้น มีดังนี้
• ปีชวด กับ ปีมะโรง เทวดาผู้ชาย
• ปีมะเมีย กับปีมะแม เทวดาผู้หญิง
• ปีวอก กับ ปีระกา ยักษ์ผู้ชาย
• ปีจอ กับ ปีขาล ยักษ์ผู้หญิง
• ปีมะเส็ง กับ ปีฉลู มนุษย์ผู้ชาย
• ปีเถาะ กับ ปีกุน มนุษย์ผู้หญิง
ดังนั้น ผู้ที่จะแต่งงานกัน ถ้าจะให้ดีโดยธรรมชาติจะต้องเอาเทวดาผู้ชายแต่งกับเทวดาผู้หญิง ยักษ์ผู้ชายแต่งกับยักษ์ผู้หญิง มนุษย์ผู้ชายกับมนุษย์ผู้หญิง จับนอกคู่นี้ถือว่าผิดสูตร ไม่ดี
เสี่ยงสายแนน พิธีเสี่ยงทายคู่แบบอีสาน
ชุติพงศ์ ปะทาเส (2564) กล่าวว่า เดิมชาวอีสานมีความเชื่อว่า ความรักเกิดจากฟ้า(แถน) เป็นผู้กำหนดถึงความเหมาะสมของคนทั้งคู่ โดยมีกุศลผลบุญในอดีตชาติเป็นเกณฑ์การตัดสิน ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์ธรรมดาไม่สามารถคาดเดาได้นอกจากจะต้องทำพิธีกรรมที่เรียกว่า “เสี่ยงสายแนน” เพื่อสอบถามฟ้าหรือพญาแถน
พิธีเสี่ยงสายแนน เป็นประเพณีของกลุ่มไทลาวโบราณที่ปัจจุบันได้สูญหายไปแล้ว อ่านพิธีเสี่ยงสายแนนได้ที่
https://www.silpa-mag.com/culture/article_25556
ฤกษ์ดีในการแต่งงาน
สวิง บุญเจิม (2539) ได้รวบรวมไว้ในตำรามรดกอีสานว่า การที่คนสองคนจะแต่งงานครองคู่อยู่กินกันได้อย่างยาวนานนั้น จะต้องหาฤกษ์ที่ดีจัดพิธีแต่งงาน ดังนี้
1.เดือนที่นิยมแต่งงาน คือ เดือนคู่ ได้แก่ เดือนยี่ เดือนสี่ เดือนหก เดือนสิบ หรือเดือนสิบสอง หรือหากแต่งในเดือนคี่ เดือนที่ดีคือ เดือนเก้า แต่เดือนนี้จะอยู่ในช่วงเข้าพรรษา ซึ่งชาวอีสานไม่นิยมแต่งงานกันในช่วงเวลานี้
2.วันแต่งงาน จะนิยมแต่งงานใน “วันหัวเฮียง(เรียง)หมอน” และไม่เป็นวันจม จะข้างขึ้นหรือข้างแรมก็ได้ จึงจะเป็นสิริมงคล ซึ่งวันหัวเฮียง (เรียง) หมอน ในวันข้างขึ้น ได้แก่ 6-7-10-11-12-13 ค่ำ และในวันข้างแรม ได้แก่ 3-7-9-13
วันข้างขึ้น
• ถ้าขึ้น 1 ค่ำ แต่งงานแล้วผู้ชายจะตายก่อน
• ถ้าขึ้น 14 ค่ำ แต่งงานแล้วผู้หญิงจะตายก่อน
• ถ้าขึ้น 2-3-8-9-15 ค่ำ แต่งงานแล้วจะหย่าร้างกัน อยู่ด้วยกันไม่ได้
• ถ้าขึ้น 4-5 ค่ำ แต่งงานแล้วอยู่ด้วยกันครึ่งเดือนจะตายจากกัน
วันข้างแรม
• ถ้าแรม 1 ค่ำ แต่งงานแล้วอยู่ด้วยกันหนึ่งเดือนจะตายจากกัน
• ถ้าแรม 2-5-15 ค่ำ ผู้หญิงจะตายเมื่อคลอดลูก
• ถ้าแรม 4-10-12-14 จะได้หย่าร้างกัน
• ถ้าแรม 6-8-11 ค่ำ ผู้หญิงจะตายก่อน
ถ้าหากได้แต่งงานในวันต้องห้ามไปแล้ว ก็มีวิธีแก้ไข คือ ให้ไหว้พระสวดมนต์ทุกเช้าเย็น จะมีอายุยืนนานไปด้วยกัน
ข้อมูลที่รวบรวมและนำเสนอไว้นี้เป็นเพียงตัวอย่างที่ใช้ในการดูลักษณะของผู้ชายหรือผู้หญิงที่ควรเลือกมาเป็นคู่ครอง การทำนายดวงชะตาตามตำราหมอดูอีสาน ซึ่งในอดีตชาวอีสานอาจจะใช้เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจแต่อาจจะไม่เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีความหลากหลายของเพศ หลากหลายรูปแบบความรักและความสัมพันธ์ การเลือกคู่ครองมักจะถือเอาตามความชอบใจและค่านิยมทางสังคมเป็นเกณฑ์โดยอาศัยช่องทางในการเลือกคู่ที่กว้างขวาง ทั้งนี้หากรู้จักนําการเลือกคู่ของพุทธศาสนาไปใช้ ก็จะทําให้ชีวิตมีความสุข และผลของการเลือกคู่ที่ถูกและไม่ถูกหลักตามหลัก ในทางพุทธศาสนาเห็นว่าเมื่อเราตัดสินใจอะไรไปแล้วถือว่านั่นคือ “กรรม” ที่เราจะต้องรับผลของการกระทำ
โทษของการประพฤติผิดในกาม ภาพเขียนบนอุโบสถวัดหนองเหล่า อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี
ข้อมูลจาก http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/