คลอดแล้ว!ระเบียบส่งเสริมรัฐบาล-เอกชนร่วมลงทุน นำงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์

1 ส.ค. 2566 เวลา 21:48 | อ่าน 25,271
 
ระเบียบส่งเสริมรัฐบาล-เอกชนร่วมลงทุน นำงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์


วันนี้ 1 สิงหาคม 2566 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ให้ความสำคัญมุ่งส่งเสริมการให้สถาบันอุดมศึกษาและสถาบันวิจัยนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในกำรแข่งขันของประเทศ เพื่อช่วยเกษตรกรและชุมชน หรือเพื่อเพิ่มมูลค่ำ ทางเศรษฐกิจและสังคมนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ระเบียบสำนักนำยกรัฐมนตรี ว่าด้วยการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนในโครงการซึ่งนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์มีผลบังคับใช้แล้ว โดยระเบียบดังกล่าว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11(8) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ประกอบมาตรการ 31 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2562 ส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ สถาบันวิจัย และหน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจและวัตถุประสงค์ด้านการวิจัย และนวัตกรรม หน่วยงานอื่นของรัฐตามที่สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ กำหนด


น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ระเบียบร่วมลงทุน ได้กำหนดวัตถุประสงค์การร่วมทุนเพื่อนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ ได้แก่ 1) เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ เชิงสังคม หรือเชิงสาธารณประโยชน์ 2) เพื่อสร้างความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัฐและเอกชน และ 3) เพื่อสร้างธุรกิจฐานเทคโนโลยีและนวัตกรรมรายใหม่ ซึ่งลักษณะโครงการร่วมลงทุน ครอบคลุม โครงการที่นำผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีความพร้อมไปใช้ดำเนินการ หรือเป็นโครงการที่มีอยู่แล้วและนำไปศึกษาต่อยอด หรือนำไปขยายผลให้เกิดการใช้ประโยชน์ในวงกว้าง สำหรับรูปแบบการร่วมลงทุน ระบุว่า หน่วยงานเจ้าของโครงการร่วมลงทุน สามารถร่วมลงทุนกับเอกชน 1) จัดตั้งบริษัทร่วมทุนที่เป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชน 2) จัดตั้งนิติบุคคลเพื่อร่วมลงทุน (Holding Company) หรือ 3) จัดตั้งนิติบุคคลเพื่อร่วมลงทุนใน ‘วิสาหกิจเริ่มต้น’ หรือ สตาร์ทอัพ (Startup) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ได้

ทั้งนี้ การอนุมัติโครงการร่วมลงทุน ต้องพิจารณาความสอดคล้องของนโยบายร่วมลงทุน ข้อเสนอ เงื่อนไข ความเป็นไปได้ทางธุรกิจ แผนธุรกิจ และแผนการจัดการความเสี่ยง รวมถึงความพร้อมของผู้ร่วมทุนและประสบการณ์ โดยหน่วยงานเจ้าของโครงการต้องจัดทำสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนที่ต้องผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมทั้งการติดตาม และประเมินผลโครงการ ซึ่งต้องกำหนดตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นความคุ้มค่าของการลงทุน และประสิทธิภาพในการบริหารการลงทุน และประเมินผลตามหลักเกณฑ์ที่หน่วนงานเจ้าของโครงการกำหนด สำหรับวิธีการคัดเลือกเอกชนมาร่วมลงทุน 1) คัดเลือกจากเอกชนอย่างน้อย 3 ราย ที่เข้ายื่นข้อเสนอร่วมลงทุน โดยยึดหลักเกณฑ์การคัดเลือกด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม โดยอกชนที่ได้รับการคัดเลือกต้องมีคุณสมบัติ ประสบการณ์ ความพร้อม และความสามารถในการเข้าร่วมลงทุนเหมาะสมตามเกณฑ์ (2) ใช้วิธีการเฉพาะเจาะจงโดยหน่วยงานเจ้าของโครงการเชิญชวนเฉพาะเอกชน ซึ่งมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดรายใดรายหนึ่งให้เข้ายื่นข้อเสนอ

ทั้งนี้ ระเบียบดังกล่าว ยังกำหนดว่าเพื่อให้การดำเนินการจัดตั้งและดำเนินงานของบริษัทร่วมทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีโอกาสประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจในอนาคต หน่วยงานเจ้าของโครงการอาจดำเนินการ ดังต่อไปนี้ (1) ส่งเสริมให้บุคลากรในหน่วยงำนเจ้าของโครงกำรไปวิจัยหรือสร้างนวัตกรรมในบริษัทร่วมทุน (2) ส่งเสริมให้บุคลากรในหน่วยงานเจ้าของโครงการไปบริหารหรือปฏิบัติงานในบริษัทร่วมทุน ได้ตามความเหมาะสม (3) ส่งเสริมให้ผู้เรียนในหน่วยงานเจ้าของโครงการซึ่งเป็นสถำนศึกษำไปศึกษา วิจัย สร้างนวัตกรรม หรือปฏิบัติงานอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาในหลักสูตรโดยตรง (4) ให้ใช้สถานที่ โครงสร้างพื้นฐาน ห้องปฏิบัติกำร เครื่องมือหรืออุปกรณ์ หรือสิ่งอื่น ในทำนองเดียวกันของหน่วยงานเจ้าของโครงการ โดยไม่มีค่าบริการหรือมีค่าบริการอัตราพิเศษก็ได้ (5) ให้ใช้บริการของหน่วยงานเจ้าของโครงกำรโดยไม่มีค่ำบริกำรหรือมีค่ำบริกำรอัตราพิเศษก็ได้ (6) จัดซื้อหรือจัดจ้ำงสินค้ำหรือบริกำรจำกบริษัทร่วมทุนในกรณีที่สินค้ำหรือบริการนั้น มีคุณภาพ มาตรฐานที่แข่งขันได้ในท้องตลาด และมีรำคำที่เหมาะสม ทั้งนี้ ตามบัญชีนวัตกรรมไทย (7) กำรส่งเสริมอื่นที่สภานโยบายประกาศกำหนด

“ระเบียบดังกล่าว จะทำให้งานวิจัยต่างๆ ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมาก จะช่วยเพิ่มรายได้และโอกาสจากการนำผลงานวิจัยไปเป็นฐานในการผลิตและบริการ เพิ่มจำนวนบริษัทเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย กลุ่ม สตาร์ทอัพ หรือกลุ่ม สมาร์ทเอสเอ็มอี ขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่เศรษฐกิจนวัตกรรม (Innovation Economy) ช่วยขับเคลื่อนการสร้าง IDE และขับเคลื่อนให้เกิดการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพิ่มมากขึ้น ตามเป้าหมายร้อยละ 2 ต่อจีดีพี”น.ส.ทิพานัน กล่าว

1 ส.ค. 2566 เวลา 21:48 | อ่าน 25,271
กำลังโหลด ...


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี ..รัฐบาลย้ำ 7 กลุ่มเสี่ยงภายใน 31 ส.ค.นี้ ป้องกันป่วยหนักช่วงฤดูฝน ตรวจสอบรายชื่อหน่วยบริการ ได้ที่ แอปฯ เป๋าตัง
28 15 ส.ค. 2568
นบข.เคาะแจกเงินช่วยข้าวนาปี-นาปรัง ไร่ละ 1,000 บาท สูงสุด 10 ไร่ บรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรกว่า 8.5 แสนครัวเรือน
39 14 ส.ค. 2568
กรุงไทย ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ช่วยประคองลูกค้าทุกกลุ่มฝ่าวิกฤต และปรับตัวรับระเบียบการค้าใหม่ของโลก และความท้าทายที่ซับซ้อนระยะข้างหน้า
39 14 ส.ค. 2568
ดวงกับดาวประจำวันที่ 10-16 สิงหาคม 2568
72 12 ส.ค. 2568
ครม. เคาะเยียวยาเต็มที่ จนท. เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่เห็นชอบ 10 ล้าน พลเรือน 8 ล้านบาท ในมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีกัมพูชาโจมตีประเทศไทย
66 5 ส.ค. 2568
ดวงกับดาวประจำวันที่ 3-9 สิงหาคม 2568
75 4 ส.ค. 2568
ดวงกับดาวประจำวันที่ 27 กรกฎาคม-2 สิงหาคม 2568
85 30 ก.ค. 2568
รัฐบาลอนุมัติเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา กรณีเสียชีวิต รายละ 1,000,000 บ.
86 26 ก.ค. 2568
รัฐบาล มอบ “ธอส. ”เปิดมาตรการพิเศษ ดอกเบี้ยต่ำแค่ 0.01% ดูแลช่วยเหลือ ผู้ประสบเหตุชายแดนไทยกัมพูชา
103 26 ก.ค. 2568
ดวงกับดาวประจำวันที่ 20-26 กรกฎาคม 2568
140 21 ก.ค. 2568
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ไอเดียบ้านสวย
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC Online GED CU-TEP SAT
 
บทความกลุ่มเดียวกัน
กำลังโหลด ...