ส่วนประกอบและสรรพคุณยาอมแก้ไอ ยาอมแก้เจ็บคอ

22 มิ.ย. 2558 เวลา 13:46 | อ่าน 10,018
 
เมื่อมีอาการเจ็บคอ หรือมีอาการไอ หลายคนเดินเข้ามาร้านยาเพื่อที่จะหาซื้อยาอมบรรเทาอาการดังกล่าว ซึ่งร้านยาบางร้านมักวางไว้บนชั้นรวมกับสินค้าอื่นๆที่สามารถเลือกหยิบได้ง่ายตามใจชอบ เช่น วางใกล้กับลูกอม เป็นต้น แต่ก่อนที่จะหยิบซื้อยาอมแต่ละครั้ง ท่านเคยอ่านฉลากยาบนซองยาอมเหล่านั้นบ้างหรือไม่? บางคนต้องการซื้อครั้งละหลายแผง เพื่อจะเก็บไว้ให้คนในบ้านใช้ด้วย หรือซื้อไปฝากคนอื่นที่มีอาการคล้ายกับตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น บางคนเล่าว่าจะซื้อไปอมเล่น เพราะรสชาติอร่อย เป็นต้น แต่จริงๆแล้ว ยาอมเหล่านี้ สามารถใช้ได้ตามความต้องการหรือไม่? เรามาดูกันว่ายาอมแก้เจ็บคอ แก้ไอ เป็นยาประเภทใด และต้องคำนึงถึงอะไรบ้างเมื่อใช้ยาเหล่านี้ ทั้งนี้ ในบทความนี้ไม่ได้หมายรวมถึงยาอมสมุนไพร

1. ส่วนประกอบในยาอมแก้เจ็บคอ มีอะไรบ้าง
ยาอมแก้เจ็บคอ ส่วนใหญ่จะมียาผสมกันอยู่หลายชนิด (ดังแสดงในตาราง) ซึ่งแบ่งออกเป็น
ยาอมแก้เจ็บคอ

● ยาบรรเทาความรู้สึกเจ็บในลำคอ เช่น ยาชาเฉพาะที่ หรือยาแก้ปวด ลดการอักเสบ

● สารฆ่าเชื้อ/ทำให้ปราศจากเชื้อ เพื่อรักษาความสะอาดในช่องปากและลำคอ

● ยาปฏิชีวนะ (หรือเรียกง่ายๆว่า ยาฆ่าเชื้อ) การผสมยาปฏิชีวนะในยาอมมีข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของยาน้อยมาก อีกทั้ง อาการเจ็บคอสามารถเกิดได้จากทั้งการติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ โดยกรณีติดเชื้อส่วนใหญ่มักเป็นเชื้อไวรัส เช่น เจ็บคอจากโรคหวัด เป็นต้น ซึ่งสามารถหายได้เอง (ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ) แต่หากสาเหตุของการเจ็บคอมาจากเชื้อแบคทีเรีย เช่น คอหอยอักเสบ หรือต่อมทอนซิลอักเสบจากเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัส กรุ๊ปเอ ซึ่งมักมีไข้สูงร่วมกับอาการเจ็บคอมาก เป็นต้น ยาหลักในการรักษาที่มีงานวิจัยสนับสนุนชัดเจน ได้แก่ ยาปฏิชีวนะแบบรับประทานบางชนิด เท่านั้น

● อื่นๆ เช่น วิตามินซี เป็นต้น

2. ส่วนประกอบในยาอมแก้ไอ มีอะไรบ้าง
ปัจจุบันมียา 2 ชนิด ที่ผลิตเป็นยาอมแก้ไอ ได้แก่ ยาเดกซ์โทรเมทอร์แฟน (dextromethorphan) สำหรับอาการไอแห้ง และยาแอมบรอกซอล (ambroxol) สำหรับไอมีเสมหะ แต่ปริมาณยาในยาอม 1 เม็ดจะมีน้อยกว่ายาเม็ดสำหรับรับประทาน

3. ยาอมแก้เจ็บคอ แก้ไอ ใช้อย่างไร
ยาอมเป็นเพียงอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ หรืออาการไอ โดยยาบางชนิดถูกจัดเป็นยาอันตราย ซึ่งต้องจ่ายและให้คำแนะนำการใช้จากแพทย์หรือเภสัชกร ขณะที่บางชนิดจัดเป็นยาสามัญประจำบ้าน ซึ่งผู้ป่วยสามารถหยิบเลือกซื้อได้เอง (ดังแสดงในรูปภาพ)
ยาอมแก้เจ็บคอ แก้ไอ

นอกจากนี้ บนฉลากยายังระบุสรรพคุณ ชื่อยา ปริมาณ และวิธีใช้ไว้อย่างชัดเจน ไม่ใช่อมเท่าไหร่ก็ได้ตามต้องการ เพราะอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากยาได้ เช่น

● ยาเฟอร์บิโพรเฟน (flurbiprofen) ซึ่งเป็นยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ หากใช้ขนาดสูงเกินไป อาจทำให้เกิดแผลและมีเลือดออกในทางเดินอาหารได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติเป็นแผลในกระเพาะอาหารอยู่แล้ว

● การใช้ยาแก้ไอเดกซ์โทรเมทอร์แฟนขนาดสูง อาจทำให้ง่วงซึม ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากยานยนต์หรือจากการใช้เครื่องจักรกลต่างๆ

● พบรายงานการเกิดภาวะเมทฮีโมโกลบินในเลือด จากการใช้ยาอมที่มีส่วนประกอบของยาชาเฉพาะที่ คือ เบนโซเคน (benzocaine) ซึ่งส่งผลให้เม็ดเลือดแดงขนส่งออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้น้อยลง เป็นต้น
นอกจากนี้ หากใช้ยาอมติดต่อกัน 2-3 วันแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อรับคำแนะนำในการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม

4. มีอะไรที่ควรคำนึงถึงเกี่ยวกับการใช้ยาอมแก้เจ็บคอ แก้ไอ อีกบ้าง
นอกจากวิธีใช้ยาที่กล่าวไปข้างต้น ยังมีคำเตือนต่างๆ ที่ระบุไว้บนฉลากยา เช่น การแพ้ยา การใช้ยาในเด็กเล็กซึ่งเสี่ยงต่อการสำลักเข้าทางเดินหายใจ หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมลูก หรือผู้ที่มีโรคบางชนิดที่ไม่ควรใช้ยา เป็นต้น

5. มีวิธีบรรเทาอาการเจ็บคอ อาการไอ ที่สามารถทำได้เองที่บ้านหรือไม่
วิธีการง่ายๆ คือ เมื่อมีอาการดังกล่าว ผู้ป่วยควรพักผ่อนให้เพียงพอ เลี่ยงอาหารรสจัด ดื่มน้ำอุ่นเยอะๆ หากไม่มีโรคประจำตัวที่จำเป็นต้องจำกัดน้ำ หรือกลั้วคอด้วยน้ำเกลืออุ่นๆ (ทำได้บ่อยๆ) ซึ่งสามารถเตรียมได้เอง โดยนำเกลือ 1 ช้อนชา ละลายในน้ำอุ่น 1 แก้ว (ประมาณ 250 มิลลิลิตร) หรือหาซื้อน้ำเกลือที่เตรียมสำเร็จได้ตามร้านยา เป็นตัน

จากข้อมูลทั้งหมด ผู้อ่านคงจะเห็นแล้วว่า แม้แต่ยาอมก็ควรใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม สำหรับบางคนที่คิดว่าเคยใช้ยานี้มาตลอด ไม่เห็นเป็นอะไร แต่อย่าลืมว่า ร่างกายของเรามีการเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา อาจมีโรคหรือปัจจัยบางอย่างเกิดขึ้นมาภายหลัง โดยที่เราคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายจากยาได้เช่นกัน ดังนั้น จึงควรอ่านฉลากยาให้ละเอียด และสอบถามเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยาเหล่านี้


บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน โดย
เภสัชกร สุรศักดิ์ วิชัยโย
ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล


22 มิ.ย. 2558 เวลา 13:46 | อ่าน 10,018
กำลังโหลด ...


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
ลูกจ้างกลุ่มไม่มีสิทธิ์ทำประกันสังคมได้เฮ..หลัง ก.แรงงานขยายเพิ่มมากกว่า 10 อาชีพ 3 กลุ่ม สามารถทำประกันสังคม ม.33 พร้อมรับสิทธิ์รักษาพยาบาลและอื่น
15 16 ก.พ. 2568
อัตราเงินเดือนข้าราชการแรกบรรจุ และบัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ
310 13 ก.พ. 2568
ห้ามออกใบอนุญาตพกปืน 1 ปี เริ่ม 14 ก.พ. 68 เพื่อรักษาความสงบลดโอกาสการใช้ปืนก่อความรุนแรง เกิดความสูญเสีย
31 13 ก.พ. 2568
วาเลนไทน์ ..วัยรักวัยรุ่น..ต้องรู้ทัน “ยาเสียสาว”หลังจนท.ออกกวาดล้างพบช่วงนี้จับกุมได้มาก ย้ำโทษคุกหนักถึง20ปี ทั้งผลิต ขาย และใช้มอมผู้อื่น
55 13 ก.พ. 2568
มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยของ Non – Banks ภายใต้โครงการคุณสู้ เราช่วย และหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และกระบวนการเบิกจ่ายโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ Non – Banks ของธนาคารออมสิน
77 12 ก.พ. 2568
ดวงกับดาวประจำวันที่ 9-15กุมภาพันธ์ 2568
67 9 ก.พ. 2568
ดวงกับดาวประจำวันที่ 2-8 กุมภาพันธ์ 2568
110 2 ก.พ. 2568
ด่วน…รัฐบาลติดดาบด้วย “พระราชกำหนด” จัดการโจรคอลเซ็นเตอร์และไซเบอร์ ครม. เห็นชอบให้อำนาจเด็ดขาดเจ้าหน้าที่ จับกุม เพิกถอน เพิ่มโทษ ชี้จากนี้เจ้าของแอปฯ ธนาคาร เครือข่ายมือถือ
94 28 ม.ค. 2568
สำนักงาน ก.พ. จะเปิดรับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (สอบภาค ก.) ประจำปี 2568 (Paper & Pencil) จำนวน 450,000 ที่นั่งสอบ และมีศูนย์สอบ 14 แห่ง
331 27 ม.ค. 2568
ดวงกับดาวประจำวันที่ 26 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2568
92 26 ม.ค. 2568
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ไอเดียบ้านสวย
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC Online GED CU-TEP SAT
 
บทความกลุ่มเดียวกัน
กำลังโหลด ...