5 วิธีสวย (แต่) เสี่ยงมะเร็ง

6 พ.ย. 2555 เวลา 08:35 | อ่าน 4,843
แชร์ไปยัง
L
 
คอลัมน์ รู้ทันโรคมะเร็ง (หน้าพิเศษ Hospital Healthcare 5 พ.ย.2555)
images by free.in.th

เมื่อเดือนที่ผ่านมามีการรณรงค์ให้ผู้หญิงหันมาตระหนักหรือให้ความสำคัญกับ "มะเร็งเต้านม" เนื่องจากเป็นเดือนแห่งการ "รณรงค์เพื่อป้องกันมะเร็งเต้านมโลก" ซึ่งเราๆ ท่านๆ ก็คงรู้กันดีว่ามะเร็งเต้านมนั้นพบมากเป็นอันดับ 1 ของผู้หญิงไทยในวันนี้ ส่วนผู้หญิงทั่วโลกพบว่าในทุกๆ ปีจะมีอุบัติการณ์มะเร็งเต้านมราว 1.5 ล้านคน

และไม่เฉพาะมะเร็งเต้านมเท่านั้น ที่ถือเป็นมฤตยูร้าย แต่ในบรรดาโรคต่างๆ คนไทยกลัวการเป็นมะเร็งมากที่สุด เพราะจากผลวิจัยเรื่อง สังเคราะห์งานวิจัยสู่ข้อเสนอโมเดลลดปัจจัยเสี่ยงจากวิถีอาหารปลอดภัย โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่างในกรุงเทพฯ เมื่อปีที่ผ่านมาพบว่า โรคร้ายแรงที่คนไทยกลัว อันดับ 1 ร้อยละ 71.9 คือ โรคมะเร็ง

แนวทางสำคัญที่จะสู้กับโรคนี้ได้ จึงอยู่ที่การเลือก ตั้งแต่เลือกกิน เลือกอยู่ เลือกพักผ่อน - ออกกำลังกาย รวมทั้งต้องเลือกตรวจคัดกรองมะเร็ง เมื่ออายุเข้าเลข 4 โดยเฉพาะคนที่มีญาติพี่น้องป่วยเป็นโรคนี้

เมื่อพูดถึงมะเร็ง นอกจากจะต้องระมัดระวังภัยจากสิ่งที่เรากล่าวไปข้างต้นแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องความสวยความงาม ก็ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งได้เช่นกัน ฉบับนี้เราไปดู 5 วิธีสวย (แต่) เสี่ยงมะเร็ง ซึ่งคุณอาจจะเป็นอีกคนหนึ่งที่เคย เสี่ยงต่อวิธีการเหล่านี้แล้วก็ได้

1) กลูต้าไธโอน เห็นใครๆ ก็อยากขาวใสไร้ที่มติ คนผิวเข้มจำนวนไม่น้อยจึงเลือกทางลัดด้วยการฉีดกลูต้าไธโอนเพื่อเร่งผลัดผิวให้กระจ่างใส ไวเหมือนโกหก แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากความขาวจะไม่คงทนถาวรแล้ว แล้วยังเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนังอีกด้วย เพราะอย่าลืมว่า คุณไม่ได้ขาวแบบธรรมชาติภูมิต้านทานผิวจึงไม่มี เมื่อสารชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายจะทำให้เม็ดสีผิวลดลง ดูขาวขึ้น เมื่อเจอกับแสงแดดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองแพ้แสงแดด และเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ โดยเฉพาะคนที่ฉีดสารในปริมาณมากและต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังเสี่ยงต่อมะเร็งตับและการทำงานของไต ซึ่งรวมไปถึงกลูต้าไธโอนชนิดที่รับประทานติดต่อกันไปนานๆ ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานของตับ รวมทั้งโรคต้อได้เช่นกัน

2) เปลี่ยนสีผมบ่อยๆ มีการวิจัยอย่างต่อเนื่องถึงฤทธิ์ของสีย้อมผม ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งและโรคร้ายแรงอื่นๆ โดยเฉพาะคนที่เรียกตัวเองว่าอินเทรนด์สุดๆ จะสีไหนแบบไหนขอให้ได้เปลี่ยน (สี) หากเปลี่ยนมากกว่า 9 ครั้ง /ปี มีสิทธิ์เสี่ยงต่อโรคลูคีเมีย หรือมะเร็งในเม็ดเลือด โรคมะเร็งในต่อมน้ำเหลือง รวมทั้ง โรคเนื้องอกในสมอง ได้ง่ายกว่าคนทั่วไปถึงร้อยละ 60 ผลวิจัยยังบอกอีกว่า ผู้หญิงที่ใช้น้ำยาปกปิดสีผมขาวชนิดสีดำจะมีโอกาสที่มะเร็งจะพัฒนาไปเป็นเนื้องอกในสมอง และมะเร็งในเม็ดเลือดชนิดที่ไม่ลุกลามได้ง่ายขึ้นกว่าถึงร้อยละ 50 คนที่เปลี่ยนสีผมหลากสีสันไปมาอยู่เรื่อยๆ จะมีความเสี่ยงสูงกว่าถึงร้อยละ 70

3) ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาว นอกจากกลูต้าไธโอนที่เน้นฉีดเข้าร่างกายแล้ว สารพัดครีมเพื่อผิว - หน้า ขาว ก็เป็นอีกตัวการหนึ่งที่ทำให้เราเสี่ยงมะเร็งผิวหนังได้ ตัวอย่างที่ได้ยินกันอย่างครึกโครมก็คือ การใช้ "ครีมกัดผิว" เปลี่ยนสีผิวให้ขาวใสทันใจสไตล์เกาหลี ซึ่งหากใช้บ่อยจะอันตราย เพราะทำให้ผิวบาง ผิวแพ้สารเคมีง่ายขึ้น เพราะมีฤทธิ์กัดกร่อนระคายเคืองสูง อาจทำให้เกิดระคายเคือง แสบ คัน เป็นผื่น และเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้นเช่นกัน หากใช้ต่อไปเรื่อยๆ ผิวจะไม่ทนต่อแสงแดด ทำให้อนาคตเสี่ยงโรคมะเร็งผิวหนัง รวมทั้งเนื้องอก จากสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่ผสมอยู่ในครีม

4) ยาสิว ยาที่คุณทานเพื่อรักษาสิวส่วนใหญ่ คือยากลุ่มกรดวิตามินเอ เป็นยาที่ห้ามหญิงตั้งครรภ์ทาน ยาตัวนี้ต้องทานต่อเนื่องกันนานเพื่อให้ได้ขนาดยาที่เหมาะสมต่อการรักษา อย่างไรก็ตาม ยาตัวนี้ทำให้ริมฝีปากแห้ง ตาแห้ง ผิวแห้ง บางคนอาจมีเลือดกำเดาไหล หรือคนไข้บางรายอาจทำให้ตับอักเสบได้ และอาจทำให้มีไขมันในเลือดสูง จากการศึกษาพบว่า ยากลุ่มนี้ หลายตัวมีผลเสียต่อตับ จึงต้องควรระมัดระวังไม่ใช้ยาเหล่านี้โดยไม่จำเป็น ต้องให้แพทย์สั่ง หรือต้องคอยตรวจการเปลี่ยนแปลงทางห้องปฏิบัติการของตับอยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นอาจเข้าทำนอง "สิวหายแต่ตับไตพัง"

5) ฟิลเลอร์ปลอม กรณีของการฉีดฟิลเลอร์ขนาดของแท้แกะกล่องยังมีความเสี่ยง ยิ่งถ้าเป็นฟิลเลอร์ของปลอมราคาถูกที่ประกาศขายทางเว็บไซต์ นอกจากจะเสี่ยงต่อร่างกาย (หากไม่เป็นอะไร) แล้ว ในระยะยาว คุณอาจเสี่ยงมะเร็งได้ไม่ยาก เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าฟิลเลอร์ปลอมที่ฉีดเข้าไปจะไปทำปฏิกิริยาอย่างไรกับอวัยวะของเรา ตัวอย่างที่มีให้เห็นกรณีพริตตี้สาวที่สังเวยชีวิตด้วยการฉีดคลอลาเจนปลอมด้วย สารโพลีอะคริลาไมด์ ซึ่งเป็นสารที่ไม่สลายตัว ให้ผลคล้ายซิลิโคน ถ้าหากไม่เป็นอะไรในระยะยาวก็เสี่ยงมะเร็งอยู่ดี

ข้อมูลจาก มติชนออนไลน์ www.matichon.co.th วันที่ 05 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 21:43:07 น.


6 พ.ย. 2555 เวลา 08:35 | อ่าน 4,843


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
รัดเกล้า ชูมาตรการแก้ปัญหาหนี้ทั้งในและนอกระบบ ย้ำไม่ใช่การลดหนี้ พักหนี้ หรือยกหนี้ แต่ช่วยไกล่เกลี่ย หาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ ยืนยันรัฐบาลแก้ไขปัญหาประชาชนอย่างยั่งยืน
9 3 ธ.ค. 2566
ดวงกับดาวประจำวันที่ 3-9 ธันวาคม 2566
89 3 ธ.ค. 2566
โฆษกรัฐบาล เผย บริษัทรถ EV เตรียมลงทุนในไทยต่อเนื่อง
62 2 ธ.ค. 2566
ออมสิน ขานรับนโยบายรัฐบาล เดินหน้าวาระแห่งชาติ “การแก้ไขหนี้นอกระบบ” ให้กู้ 50,000 บาทต่อราย ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.75% ต่อเดือน ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
237 1 ธ.ค. 2566
อนุทิน-พวงเพ็ชร จับมือเปิดตัวแอพ
238 29 พ.ย. 2566
​รองนายกฯ ภูมิธรรม กดปุ่ม Kick off ธ.ก.ส.โอนเงิน ช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ล็อตแรกวันนี้ จ่าย 5 รอบ
205 29 พ.ย. 2566
การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่เป็นวาระแห่งชาติ
122 28 พ.ย. 2566
มติคณะรัฐมนตรี ขึ้นเงินเดือน ป.ตรี เรื่อง รายงานผลการศึกษาตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 (เรื่อง การปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำ และการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ
433 28 พ.ย. 2566
สธ.รับลูกรัฐบาลแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เปิดคลินิกสุขภาพการเงิน 8 ธ.ค. ช่วยบุคลากร สธ. กว่า 5 แสนคน
24 28 พ.ย. 2566
แก้ปัญหาหนี้ รัฐบาล เตรียมแถลงแก้หนี้ 28 พ.ย.นี้ รองโฆษกฯรัฐบาล “รัดเกล้า” ยืนยันรัฐบาลเอาจริงในการแก้ไขปัญหา ยกเป็นวาระแห่งชาติ
452 27 พ.ย. 2566
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ซื้อขายรถบ้าน.com
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC CU-AAT คืออะไร จุฬาติวเตอร์
 บทความกลุ่มเดียวกัน