นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือในระยะเร่งด่วนสำหรับกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการ ทั้งที่อยู่ในระบบและนอกระบบประกันสังคม ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด กรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 25) ได้แก่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (จังหวัดนครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร) เป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยมีรูปแบบการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเผยว่า ครม. มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคมเนื่องจากไม่มีลูกจ้าง ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ผ่านโครงการคนละครึ่งภายในเดือนกรกฎาคม 2564 รวมทั้งให้กระทรวงแรงงาน เร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างให้ดำเนินการลงทะเบียนในระบบประกันสังคม
นอกจากนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงแรงงาน จะประสานขอความร่วมมือระหว่างสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์กับสมาคมภัตตาคารไทยและร้านอาหาร ให้ใช้บริการอาหารจากภัตตาคาร ร้านอาหาร และร้านอาหารรายย่อย แม่ค้า พ่อค้า เพื่อดูแลกลุ่มแรงงานในสถานที่พักอาศัยชั่วคราวสำหรับคนงานทั้งภายในและภายนอกสถานที่ก่อสร้างด้วย
“สำหรับโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ให้ดำเนินการในช่วงเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม 2564 เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนที่มีกำลังซื้อ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร ได้แก่ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ยังคงดำเนินการต่อไปเพื่อเพิ่มปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจให้เป็นไปต่อเนื่อง” นายอนุชา ฯ กล่าวยืนยัน