สธ.ยัน “ฟาวิพิราเวียร์” รักษาโควิดได้ผล ช่วยอาการดีขึ้น 79%

19 มี.ค. 2565 เวลา 21:08 | อ่าน 558
 

กระทรวงสาธารณสุข เผย “ยาฟาวิพิราเวียร์”อมีประสิทธิภาพ ช่วยผู้ป่วยโควิด 19 อาการดีขึ้น 79%ย้ำการจัดหายามารักษาในภาวะโรคมีการระบาด ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ทั้งประสิทธิภาพ ความปลอดภัย จำนวนผู้ป่วย ความสามารถในการจัดหา และการจัดระบบบริการรองรับ โดยมีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญร่วมกันพิจารณา


สธ.ยัน ฟาวิพิราเวียร์ รักษาโควิดได้ผล ช่วยอาการดีขึ้น 79%

วันนี้ (19 มีนาคม 2565) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ แถลงประเด็นประโยชน์การใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ในการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 โดย นพ.โอภาสกล่าวว่า เริ่มต้นโรคโควิด 19 เป็นโรคอุบัติใหม่ ยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ บุคลากรทางการแพทย์จึงต้องหาวิธีในการรักษา โดยนำยาต้านไวรัสที่ขึ้นทะเบียนใช้อยู่เดิมและมีกลไกการออกฤทธิ์ที่น่าจะยับยั้งเชื้อได้มาทดลองใช้ อาทิ ยาต้านไวรัสเอชไอวี ยารักษาไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น และพบว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ที่ขึ้นทะเบียนกับ อย.ในการรักษาไข้หวัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยหลายรายอาการดีขึ้น ซึ่งในสถานการณ์การระบาดที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก การจัดหายามาใช้นอกจากประสิทธิภาพในการรักษาและความปลอดภัย ยังต้องพิจารณาเรื่องของจำนวนผู้ป่วยที่ต้องจัดหายามารองรับ และความสามารถในการจัดบริการด้วย ซึ่งยาฟาวิพิราเวียร์ประเทศไทยสามารถจัดหาจำนวนมากได้ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป และมีผลการรักษาที่ดี หากป่วยอาการไม่รุนแรงและใช้รักษาเร็ว จะลดโอกาสเกิดอาการรุนแรงและหายป่วยได้ ผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านการรักษาและควบคุมป้องกันโรคได้พิจารณาร่วมกันอย่างรอบคอบแล้วจึงตัดสินใจนำมาใช้


นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ โดยศูนย์วิจัยทางคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ร่วมกับ สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยแบ่งศึกษาในผู้ป่วย 2 กลุ่ม กลุ่มแรก 62 ราย ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ตามสูตร คือ 1,800 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้งในวันแรก และ 800 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง อีก 4 วัน ส่วนกลุ่มที่สอง 31 ราย ไม่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ ติดตามจากการประเมินอาการของผู้ป่วยและวัดปริมาณไวรัสในโพรงจมูก พบว่า ภายใน 14 วัน กลุ่มที่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์มีอาการดีขึ้น 79% ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้รับยาอาการดีขึ้น 32.3% โดยผู้ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์มีอาการดีขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 ของการรักษา และในวันที่ 13 และ 28 ของการรักษาจะมีปริมาณไวรัสต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้รับยา แต่มีข้อจำกัด คือ หากรักษาช้าและอาการค่อนข้างหนัก ประสิทธิภาพของยาจะไม่ดีนัก


“กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า ไม่มีการนำยาที่ไม่มีประสิทธิภาพ/ประสิทธิผล หรือเป็นอันตรายมาใช้รักษาผู้ป่วย และที่ผ่านมามีผู้ป่วยโควิด 19 ได้รับการรักษาด้วยยาฟาวิพิราเวียร์เกินกว่าล้านคน ช่วยลดการเสียชีวิต ทำให้หายป่วยกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ และช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคได้ จึงขอให้เชื่อมั่นในยาที่ใช้รักษา”นพ.โอภาสกล่าว


ด้าน นพ.มานัส กล่าวว่า การรักษาโควิด 19 ผู้เชี่ยวชาญมีการติดตามข้อมูลทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และประชุมร่วมกันเพื่อปรับแนวทางการรักษาเป็นระยะตามหลักฐานเชิงประจักษ์ ล่าสุดได้ปรับปรุงแนวทางการรักษาไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 และสัปดาห์หน้าอาจจะมีการปรับปรุงอีกครั้ง สำหรับยาฟาวิพิราเวียร์มีการใช้มาแล้ว 2 ปี ออกฤทธิ์โดยยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส จากการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยที่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์มีอาการดีขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับยา โดยเฉพาะในช่วง 14 วัน ส่วนยาเรมดิซิเวียร์ มีกลไกการออกฤทธิ์ตำแหน่งเดียวกับยาฟาวิพิราเวียร์ ได้รับการรับรองจาก อย.สหรัฐฯ ให้ใช้ในภาวะฉุกเฉิน โดยให้ทางหลอดเลือดดำสำหรับผู้ที่รับประทานไม่ได้ มีปัญหาเรื่องการดูดซึมยา และใช้ได้ในหญิงตั้งครรภ์ จากการศึกษาวิจัยพบว่าผู้ป่วยมีอาการน้อยลง และช่วยลดการนอนโรงพยาบาลเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับยาหลอกส่วนยาอีก 2 รายการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ คือ ยาโมลนูพิราเวียร์ กำลังเตรียมการกระจายยา กลไกออกฤทธิ์จุดเดียวกับยาฟาวิพิราเวียร์ ช่วยให้ผู้ป่วยลดความเสี่ยงการเกิดอาการรุนแรง และยาแพกซ์โลวิด กำลังดำเนินการจัดหาเข้ามา มีกลไกการออกฤทธิ์ที่เอนไซม์ทำให้เชื้อลดจำนวนลง ไม่สามารถเกิดผลกับโรคได้ ช่วยลดความเสี่ยงการนอนโรงพยาบาลลง 88% กรณีให้ยาภายใน 5 วันหลังมีอาการ คาดว่าจะเข้ามาในกลางเดือนเมษายนนี้ ซึ่งจากการติดตามการใช้ยามาสักระยะ พบว่าแต่ละตัวมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน เช่น เรมดิซิเวียร์ช่วยกลุ่มอาการปานกลาง ใช้ได้ในหญิงตั้งครรภ์ ยาฟาวิพิราเวียร์ให้ได้ในหญิงตั้งครรภ์ไตรมาส 2 และ 3 แต่โมลนูพิราเวียร์และแพกซ์โลวิด มีข้อห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร รวมถึงเป็นยาใหม่จึงมีราคาสูงถึงคอร์สละ 1 หมื่นบาท ขณะที่ยาฟาวิพิราเวียร์ราคาคอร์สละ 800 บาท และเรมดิซิเวียร์ 1,512 บาท นพ.มานัสกล่าวในตอนท้าย


19 มี.ค. 2565 เวลา 21:08 | อ่าน 558
กำลังโหลด ...


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี ..รัฐบาลย้ำ 7 กลุ่มเสี่ยงภายใน 31 ส.ค.นี้ ป้องกันป่วยหนักช่วงฤดูฝน ตรวจสอบรายชื่อหน่วยบริการ ได้ที่ แอปฯ เป๋าตัง
28 15 ส.ค. 2568
นบข.เคาะแจกเงินช่วยข้าวนาปี-นาปรัง ไร่ละ 1,000 บาท สูงสุด 10 ไร่ บรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรกว่า 8.5 แสนครัวเรือน
39 14 ส.ค. 2568
กรุงไทย ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ช่วยประคองลูกค้าทุกกลุ่มฝ่าวิกฤต และปรับตัวรับระเบียบการค้าใหม่ของโลก และความท้าทายที่ซับซ้อนระยะข้างหน้า
39 14 ส.ค. 2568
ดวงกับดาวประจำวันที่ 10-16 สิงหาคม 2568
72 12 ส.ค. 2568
ครม. เคาะเยียวยาเต็มที่ จนท. เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่เห็นชอบ 10 ล้าน พลเรือน 8 ล้านบาท ในมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีกัมพูชาโจมตีประเทศไทย
66 5 ส.ค. 2568
ดวงกับดาวประจำวันที่ 3-9 สิงหาคม 2568
75 4 ส.ค. 2568
ดวงกับดาวประจำวันที่ 27 กรกฎาคม-2 สิงหาคม 2568
85 30 ก.ค. 2568
รัฐบาลอนุมัติเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา กรณีเสียชีวิต รายละ 1,000,000 บ.
86 26 ก.ค. 2568
รัฐบาล มอบ “ธอส. ”เปิดมาตรการพิเศษ ดอกเบี้ยต่ำแค่ 0.01% ดูแลช่วยเหลือ ผู้ประสบเหตุชายแดนไทยกัมพูชา
103 26 ก.ค. 2568
ดวงกับดาวประจำวันที่ 20-26 กรกฎาคม 2568
140 21 ก.ค. 2568
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ไอเดียบ้านสวย
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC Online GED CU-TEP SAT
 
บทความกลุ่มเดียวกัน
กำลังโหลด ...