สธ.ยัน “ฟาวิพิราเวียร์” รักษาโควิดได้ผล ช่วยอาการดีขึ้น 79%

19 มี.ค. 2565 เวลา 21:08 | อ่าน 514
 

กระทรวงสาธารณสุข เผย “ยาฟาวิพิราเวียร์”อมีประสิทธิภาพ ช่วยผู้ป่วยโควิด 19 อาการดีขึ้น 79%ย้ำการจัดหายามารักษาในภาวะโรคมีการระบาด ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ทั้งประสิทธิภาพ ความปลอดภัย จำนวนผู้ป่วย ความสามารถในการจัดหา และการจัดระบบบริการรองรับ โดยมีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญร่วมกันพิจารณา


สธ.ยัน ฟาวิพิราเวียร์ รักษาโควิดได้ผล ช่วยอาการดีขึ้น 79%

วันนี้ (19 มีนาคม 2565) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ แถลงประเด็นประโยชน์การใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ในการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 โดย นพ.โอภาสกล่าวว่า เริ่มต้นโรคโควิด 19 เป็นโรคอุบัติใหม่ ยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ บุคลากรทางการแพทย์จึงต้องหาวิธีในการรักษา โดยนำยาต้านไวรัสที่ขึ้นทะเบียนใช้อยู่เดิมและมีกลไกการออกฤทธิ์ที่น่าจะยับยั้งเชื้อได้มาทดลองใช้ อาทิ ยาต้านไวรัสเอชไอวี ยารักษาไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น และพบว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ที่ขึ้นทะเบียนกับ อย.ในการรักษาไข้หวัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยหลายรายอาการดีขึ้น ซึ่งในสถานการณ์การระบาดที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก การจัดหายามาใช้นอกจากประสิทธิภาพในการรักษาและความปลอดภัย ยังต้องพิจารณาเรื่องของจำนวนผู้ป่วยที่ต้องจัดหายามารองรับ และความสามารถในการจัดบริการด้วย ซึ่งยาฟาวิพิราเวียร์ประเทศไทยสามารถจัดหาจำนวนมากได้ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป และมีผลการรักษาที่ดี หากป่วยอาการไม่รุนแรงและใช้รักษาเร็ว จะลดโอกาสเกิดอาการรุนแรงและหายป่วยได้ ผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านการรักษาและควบคุมป้องกันโรคได้พิจารณาร่วมกันอย่างรอบคอบแล้วจึงตัดสินใจนำมาใช้


นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ โดยศูนย์วิจัยทางคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ร่วมกับ สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยแบ่งศึกษาในผู้ป่วย 2 กลุ่ม กลุ่มแรก 62 ราย ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ตามสูตร คือ 1,800 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้งในวันแรก และ 800 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง อีก 4 วัน ส่วนกลุ่มที่สอง 31 ราย ไม่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ ติดตามจากการประเมินอาการของผู้ป่วยและวัดปริมาณไวรัสในโพรงจมูก พบว่า ภายใน 14 วัน กลุ่มที่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์มีอาการดีขึ้น 79% ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้รับยาอาการดีขึ้น 32.3% โดยผู้ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์มีอาการดีขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 ของการรักษา และในวันที่ 13 และ 28 ของการรักษาจะมีปริมาณไวรัสต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้รับยา แต่มีข้อจำกัด คือ หากรักษาช้าและอาการค่อนข้างหนัก ประสิทธิภาพของยาจะไม่ดีนัก


“กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า ไม่มีการนำยาที่ไม่มีประสิทธิภาพ/ประสิทธิผล หรือเป็นอันตรายมาใช้รักษาผู้ป่วย และที่ผ่านมามีผู้ป่วยโควิด 19 ได้รับการรักษาด้วยยาฟาวิพิราเวียร์เกินกว่าล้านคน ช่วยลดการเสียชีวิต ทำให้หายป่วยกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ และช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคได้ จึงขอให้เชื่อมั่นในยาที่ใช้รักษา”นพ.โอภาสกล่าว


ด้าน นพ.มานัส กล่าวว่า การรักษาโควิด 19 ผู้เชี่ยวชาญมีการติดตามข้อมูลทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และประชุมร่วมกันเพื่อปรับแนวทางการรักษาเป็นระยะตามหลักฐานเชิงประจักษ์ ล่าสุดได้ปรับปรุงแนวทางการรักษาไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 และสัปดาห์หน้าอาจจะมีการปรับปรุงอีกครั้ง สำหรับยาฟาวิพิราเวียร์มีการใช้มาแล้ว 2 ปี ออกฤทธิ์โดยยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส จากการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยที่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์มีอาการดีขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับยา โดยเฉพาะในช่วง 14 วัน ส่วนยาเรมดิซิเวียร์ มีกลไกการออกฤทธิ์ตำแหน่งเดียวกับยาฟาวิพิราเวียร์ ได้รับการรับรองจาก อย.สหรัฐฯ ให้ใช้ในภาวะฉุกเฉิน โดยให้ทางหลอดเลือดดำสำหรับผู้ที่รับประทานไม่ได้ มีปัญหาเรื่องการดูดซึมยา และใช้ได้ในหญิงตั้งครรภ์ จากการศึกษาวิจัยพบว่าผู้ป่วยมีอาการน้อยลง และช่วยลดการนอนโรงพยาบาลเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับยาหลอกส่วนยาอีก 2 รายการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ คือ ยาโมลนูพิราเวียร์ กำลังเตรียมการกระจายยา กลไกออกฤทธิ์จุดเดียวกับยาฟาวิพิราเวียร์ ช่วยให้ผู้ป่วยลดความเสี่ยงการเกิดอาการรุนแรง และยาแพกซ์โลวิด กำลังดำเนินการจัดหาเข้ามา มีกลไกการออกฤทธิ์ที่เอนไซม์ทำให้เชื้อลดจำนวนลง ไม่สามารถเกิดผลกับโรคได้ ช่วยลดความเสี่ยงการนอนโรงพยาบาลลง 88% กรณีให้ยาภายใน 5 วันหลังมีอาการ คาดว่าจะเข้ามาในกลางเดือนเมษายนนี้ ซึ่งจากการติดตามการใช้ยามาสักระยะ พบว่าแต่ละตัวมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน เช่น เรมดิซิเวียร์ช่วยกลุ่มอาการปานกลาง ใช้ได้ในหญิงตั้งครรภ์ ยาฟาวิพิราเวียร์ให้ได้ในหญิงตั้งครรภ์ไตรมาส 2 และ 3 แต่โมลนูพิราเวียร์และแพกซ์โลวิด มีข้อห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร รวมถึงเป็นยาใหม่จึงมีราคาสูงถึงคอร์สละ 1 หมื่นบาท ขณะที่ยาฟาวิพิราเวียร์ราคาคอร์สละ 800 บาท และเรมดิซิเวียร์ 1,512 บาท นพ.มานัสกล่าวในตอนท้าย


19 มี.ค. 2565 เวลา 21:08 | อ่าน 514
กำลังโหลด ...


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
บทวิเคราะห์เรื่อง อัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ย. 68 อยู่ที่ -0.22% คาดผลจากราคาพลังงาน อุปสงค์ในประเทศและสงครามการค้าทำให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำในปีนี้
11 9 พ.ค. 2568
รัฐบาลเตือน นายจ้าง! อย่าลืมขึ้นทะเบียนหรือแจ้งออกลูกจ้าง ตามกฎหมาย ระวังถูกปรับ แถมลูกจ้างเสียสิทธิ
35 6 พ.ค. 2568
ดวงกับดาวประจำวันที่ 4-10 พฤษภาคม 2568
145 4 พ.ค. 2568
ความคืบหน้าการจ่ายเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ รอบการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568
53 29 เม.ย. 2568
ครม. เห็นชอบโครงการสลากการกุศล เพื่อสนับสนุนโครงการที่ผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศลฯ
48 29 เม.ย. 2568
ออมสินร่วมฉลอง 150 ปี ก.คลัง จัดโปรแรง เงินฝาก 150 วัน ดอกเบี้ยพิเศษเฉลี่ย 2.55% ต่อปี
59 28 เม.ย. 2568
ดวงกับดาวประจำวันที่ 27 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2568
69 27 เม.ย. 2568
สัปดาห์นี้รับมืออากาศร้อนจัด แนะกลุ่มเสี่ยง - ผู้ใช้แรงงาน เลี่ยงการทำงานกลางแจ้งต่อเนื่อง พักผ่อนและดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
69 27 เม.ย. 2568
ยูเนสโกยกย่อง 3 มรดกไทย สมุดไทยคำหลวง – พระเจ้าช้างเผือก – เอกสารอาเซียน
51 26 เม.ย. 2568
รัฐบาลนำสื่อสัญจรติดตามโครงการ นาหว้าโมเดล
50 26 เม.ย. 2568
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ไอเดียบ้านสวย
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC Online GED CU-TEP SAT
 
บทความกลุ่มเดียวกัน
กำลังโหลด ...