หลักเกณฑ์ฯ ใหม่นี้ กำหนดการย้ายเป็น 3 กรณี ได้แก่ การย้ายกรณีปกติ การย้ายกรณีพิเศษ และการย้ายเพื่อประโยชน์ของทางราชการ
1. การย้ายกรณีปกติ
• คุณสมบัติของผู้ขอย้าย โดยผู้ที่ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วย เมื่อพ้นการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มและได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูแล้ว สามารถยื่นคำร้องได้เลย (ไม่ต้องรอ 4 ปี)
• ได้ปฏิบัติงานในหน้าที่ความรับผิดชอบในการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษาปัจจุบันติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 24 เดือน นับถึงวันสุดท้ายที่กำหนดให้ยื่นคำร้องขอย้าย โดยสามารถนำระยะเวลาที่เตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มในสถานศึกษานั้น ไม่น้อยกว่า 24 เดือนมาใช้ได้
• ให้ยื่นคำร้อง 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 ยื่นคำร้องเดือนมกราคม ให้ใช้พิจารณาย้ายระหว่างวันที่ 15 ก.พ. – 30 เม.ย. และครั้งที่ 2 ยื่นคำร้องเดือนกรกฎาคม ให้ใช้พิจารณาย้ายระหว่างวันที่ 1 ก.ย. – 31 ต.ค.
• องค์ประกอบการพิจารณาย้าย ปรับให้สอดคล้องกับมาตรฐานตำแหน่งฯ ว 3/2564
2. การย้ายกรณีพิเศษ
เพิ่มเติมรายละเอียดเหตุของการย้ายให้ชัดเจนขึ้น และกำหนดให้ผู้ขอย้ายระบุอำเภอ ในจังหวัดที่ประสงค์ขอย้ายไปดำรงตำแหน่ง เพื่อให้ผู้ขอย้ายได้รับการช่วยเหลือโดยเร็ว โดยให้ สพท. ที่รับย้าย เป็นผู้พิจารณาสถานศึกษาให้ไปดำรงตำแหน่ง และต้องดำเนินการนำเสนอ กศจ. พิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ภายใน 45 วัน
3. การย้ายกรณีเพื่อประโยชน์ของทางราชการ
กำหนดเหมือนเดิม เนื่องจากหลักเกณฑ์และวิธีการฯ เดิมได้กระจายอำนาจให้ สพท. หรือส่วนราชการอื่นเป็นผู้พิจารณาย้ายได้ตามความเหมาะสมโดยคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการ ในกรณี ดังนี้
• การย้ายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
• การย้ายเพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการในสถานศึกษา
• การย้ายเพื่อเกลี่ยอัตรากำลังของสถานศึกษา
ทั้งนี้ ให้ยกเลิกหลักเกณฑ์ การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ตาม ว 8/2549 ว 24/2559 และ ว 32/2564
https://moe360.blog/2022/07/27/27765