ข้อดี 15 ข้อ ของการออกกำลังกาย

16 ส.ค. 2556 เวลา 00:02 | อ่าน 7,713
 
เมื่อใดก็ตามที่คุณยุ่งกับงานมากๆ เหนื่อยจากกิจกรรมต่างๆ หรือแม้กระทั่งรู้สึกลำบากตัวเองเมื่อจะต้องผูกเชือกรองเท้า ให้ลองนึกถึงข้อดีของการออกกำลังต่อไปนี้ที่จะช่วยให้สุขภาพร่างกายของคุณสมบูรณ์ขึ้นได้


1. บรรเทาอาการเจ็บปวดของร่างกายด้วยวิธีธรรมชาติเคลื่อนไหวร่างกายมากๆ เพื่อให้ข้อต่อส่วนต่างๆ ในร่างกายที่ติดขัดและเคลื่อนไหวลำบากสามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกดีขึ้น
ฟังดูแล้วอาจจะขัดใจไปบ้าง แต่ว่าการพักผ่อนนั้น บางครั้งก็อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดที่จะช่วยลดความเจ็บปวดและอาการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณหัวเข่า ไหล่ หลัง หรือลำคอ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวว่าผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดีที่มีการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องนั้นจะมีอาการเจ็บปวดกระดูกและกล้ามเนื้อน้อยกว่าบุคคลในวัยเดียวกันที่ไม่ค่อยออกกำลังกายมากถึง 25% ด้วยกัน


เมื่อมีการออกกำลังกายนั้น ร่างกายจะมีการหลั่งสารสุข หรือ Endorphins ออกมา ซึ่งถือเป็นยาแก้ปวดตามธรรมชาติให้แก่ร่างกายเป็นอย่างดี และอาจทำให้คุณมีกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นส่วนต่างๆ แข็งแรงมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ การที่คุณมีการทำกิจกรรมต่างๆ อยู่ตลอดเวลายังสามารถช่วยบรรเทาสภาวะเรื้อรังของร่างกายบางอย่างได้ด้วย เช่น โรคข้ออักเสบ (Arthritis) เป็นต้น ซึ่งในงานศึกษาหนึ่งพบว่า ผู้ที่ป่วยเป็นโรคข้ออักเสบนี้ จะมีอาการปวดข้อลดลง 25% และมีอาการข้อติดลดลง 16% หลังจากหลังจากที่ได้มีการออกกำลังกายประเภทที่มีการกระแทกน้อย เช่น การเดินทรงตัวและการเดินก้าวยาว เป็นเวลาต่อเนื่อง 6 เดือน ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เมื่อมีการออกกำลังกายบ้างแล้ว คนส่วนใหญ่จะเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตนเองไปในทางที่ดีขึ้นภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น

สิ่งที่ต้องทำ : เล่นโยคะหรือมวยไท้เก๊กสัปดาห์ละสองครั้ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มทั้งความยืดหยุ่นและความสามารถในการเคลื่อนไหวของร่างกายและช่วยลดอาการเจ็บปวดของอวัยวะในร่างกายส่วนต่างๆ

2. รู้สึกเซ็กซี่ได้เสมอไม่ว่ารูปร่างของตนจะเป็นอย่างไร ภูมิใจในสัดส่วนรูปร่างของตัวเอง
การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมนั้นย่อมจะทำให้รูปร่างของคุณดูดีขึ้นได้ จากผลการศึกษาเกี่ยวกับการออกกำลังกายและรูปลักษณ์ทางร่างกาย พบว่า การออกกำลังกายอย่างง่ายๆ โดยไม่คำนึงว่าคุณจะมีน้ำหนักหรือความแข็งแรงของร่ายกายมากเพียงใดนั้น จะช่วยทำให้คุณรู้สึกดีเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของตัวเองได้ซึ่งอาจเกิดจากการที่ร่างกายของคุณได้มีการหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกดีออกมาก็ได้


นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยกระตุ้นความรู้สึกทางเพศของคุณได้ด้วยโดยการเพิ่มอัตราการไหลเวียนเลือดไปยังบริเวณอวัยวะเพศมากขึ้น จากการศึกษาหนึ่งพบว่า การออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานเพียง 20 นาทีสามารถช่วยกระตุ้นความรู้สึกทางเพศของผู้หญิงได้มากขึ้นถึง 169% เลยทีเดียว และจากการศึกษาผู้ที่ชื่นชอบการว่ายน้ำที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปจะสามารถมีความสุขทางเพศได้เท่าเทียมกับผู้ที่มีอายุน้อยกว่าหลายสิบปีอีกด้วย

สิ่งที่ต้องทำ : เต้นแอโรบิก 20 นาทีก่อนบทสวาทกับคู่รัก และอาจเดินหรือเล่นโยคะเป็นประจำทุกวันเพื่อช่วยให้บทรักของคุณดีขึ้น

3. ลดค่าใช้จ่ายในการหาหมอฟันให้น้อยลงสุขภาพร่างกายที่ดีสร้างรอยยิ้มที่สวยงามได้
การใช้ไหมขัดฟันและการแปรงฟันมิได้เป็นปัจจัยสำคัญเพียงสองประการที่จะทำให้คุณมีรอยยิ้มที่ดูสมบูรณ์ดีเท่านั้น หากแต่สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะช่วยในเรื่องนี้ก็คือ การออกกำลังกายนั่นเอง ในการศึกษาหนึ่งพบว่า ผู้ใหญ่ที่มีการทำกิจกรรมระดับปานกลางเป็นเวลา 30 นาทีต่อครั้ง สัปดาห์ละ 5 ครั้งขึ้นไปนั้นจะมีโอกาสลดลงกว่า 42% ที่จะประสบกับปัญหาโรคปริทันต์อักเสบ (Periodontitis) ซึ่งเป็นโรคในช่องปากที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อคุณมีอายุมากขึ้น การออกกำลังกายนั้นอาจมีส่วนป้องกันการเกิดโรคปริทันต์อักเสบดังกล่าวในลักษณะเดียวกับที่การออกกำลังกายมีส่วนต่อการป้องกันโรคหัวใจ กล่าวคือ การออกกำลังกายจะช่วยลดการอักเสบและช่วยทำให้เกิดโปรตีน C - reactive Protein ในเลือดมากขึ้น


สิ่งที่ต้องทำ : นอกจากออกกำลังกายหรือหมั่นทำกิจกรรมต่างๆ อยู่เสมอแล้ว ควรพบหมอฟันทุก 6 เดือน (หรือมากกว่านั้นถ้าหมอฟันบอกว่าคุณมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคในช่องปาก)

4. ปลดปล่อยพลังงานสะสมที่อยู่ในร่างกายกระตุ้นร่างกายของคุณให้พบกับสิ่งใหม่ๆ เสียบ้าง
ถ้าหากว่าคุณเป็นหนึ่งใน 50% ของผู้ใหญ่ที่พบว่าตนเองมีอาการเหนื่อยทางร่างกายอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์นั้น ให้คุณลุกออกจากโต๊ะทำงานแล้วออกไปเดินเล่นข้างนอกเสียบ้าง จากผลการศึกษาพบว่า การเคลื่อนไหวร่างกายจะช่วยเพิ่มพลังงานและช่วยลดอาการอ่อนเพลียได้

นอกจากนี้ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอยังช่วยทำให้ร่างกายหลั่งสารเคมีในสมองที่ช่วยในการลดอาการอ่อนเพลียได้ด้วย เช่น สาร Norepinephrin และ Dopamine ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ตลอดจนสาร Serotonin ซึ่งเป็นสารที่ช่วยทำให้คนเรามีอารมณ์ดีขึ้น


5. ลดปริมาณไขมันที่เกิดขึ้นจากความเครียดต่อสู้กับน้ำหนักของร่างกายที่เพิ่มขึ้นจากความวิตกกังวล
การออกกำลังกายเพียง 40 นาทีสองครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอที่จะหยุดความอ้วนลงพุงที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ขนาดรอบเอวของผู้ที่ออกกำลังกายน้อยนั้นโดยเฉลี่ยแล้วจะเพิ่มมากขึ้นประมาณ 3 นิ้ว นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังอาจลดระดับฮอร์โมนบางตัวได้ เช่น ฮอร์โมน Cortisol ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดการอ้วนลงพุง


6. ลดความเสี่ยงในการเป็นหวัดได้ 33% สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายของตัวคุณเอง
การออกกำลังกายในระดับปานกลางไม่ได้เพียงแค่ทำให้ระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกายของคุณทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น หากแต่ยังช่วยในเรื่องระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของคุณได้อีกด้วย ซึ่งก็หมายความว่าร่างกายของคุณจะสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ที่เป็นสาเหตุทำให้ป่วยเป็นไข้หวัดและโรคอื่นๆ ได้ จากผลการศึกษาหนึ่งพบว่า หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 50-75 ปีที่มีการออกกำลังกายที่ได้บริหารหัวใจและระบบการหมุนเวียนเลือด (Cardio) เป็นเวลา 45 นาทีต่อครั้ง 5 วันต่อสัปดาห์ จะป่วยเป็นไข้หวัดในสัดส่วน 1 ใน 3 ของหญิงที่มีการออกกำลังกายแบบเดินยืดเส้นยืดสายสัปดาห์ละครั้ง


สิ่งที่ต้องทำ : เพิ่มการออกกำลังกายที่ได้บริหารหัวใจและระบบการหมุนเวียนเลือด (Cardio) ให้เป็นกิจวัตรประจำวันโดยการเปลี่ยนจากการเดินเป็นการวิ่ง

7. บำรุงสายตา การรับประทานแครอทเป็นสิ่งที่ดีสำหรับสายตา แต่การออกกำลังกายอาจช่วยได้มากกว่า
สิ่งที่ดีสำหรับหัวใจของคุณนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ดีสำหรับดวงตาของคุณเช่นกัน จากผลการศึกษาในผู้ใหญ่จำนวน 4000 รายพบว่า รูปแบบการใช้ชีวิตแบบทำกิจกรรมต่างๆ อยู่เสมอสามารถกำจัดความเสี่ยงภาวะจุดรับภาพเสื่อม (Macular Degeneration) ที่เกิดขึ้นตามอายุได้สูงสุดถึง 70% ซึ่งโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้นี้จะทำให้การอ่านหนังสือ การขับรถ และการมองดูสิ่งที่มีรายละเอียดขนาดเล็กมากสามารถกระทำได้ยาก และถือเป็นสาเหตุสำคัญที่จะทำให้ตาบอดได้เมื่อมีอายุหลังจาก 60 ปีขึ้นไป


สิ่งที่ต้องทำ : ป้องกันดวงตาของคุณในระหว่างการทำกิจกรรมกลางแจ้งทั้งหมด (ในกรณีที่คุณเป็นผู้ที่ชอบเดิน ให้เดินวันละประมาณ 1.5 กิโลเมตร) โดยตลอดทั้งปี คุณอาจเลือกสวมใส่แว่นตากันแดดที่สามารถป้องกันแสง UVA/UVB ก็ได้

9. การนอนหลับลึกการนอนหลับอย่างสนิทจะไม่เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
เมื่อคุณออกกำลังกาย คุณจะต้องไม่มีปัญหากับการนอนหลับในเวลากลางคืนอีกต่อไป จากผลการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปที่เดินหรือเต้นอย่างน้อยครั้งละหนึ่งชั่วโมง 4 ครั้งต่อสัปดาห์ จะมีจำนวนครั้งของการตื่นกลางดึกในสัดส่วนถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนครั้งของการตื่นกลางดึกของผู้หญิงที่ไม่ชอบการออกกำลังกาย และในแต่ละคืน จะมีระยะเวลาการนอนหลับที่มากกว่าหญิงที่ไม่ออกกำลังกายเฉลี่ยคืนละ 45 นาทีอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้นับว่าเป็นข่าวดีอย่างมากสำหรับผู้หญิงหลายคนที่มักจะมีการตื่นกลางดึกเมื่อมีอายุมากขึ้น กล่าวคือ เมื่อคุณมีอายุมากขึ้น รูปแบบการนอนหลับของคุณก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ในแต่ละคืน คุณอาจจะต้องใช้เวลาในการเริ่มต้นนอนหลับใหม่หลายๆ ครั้ง


สิ่งที่ต้องทำ : ตั้งเป้าหมายในการออกกำลังกายอย่างน้อยครั้งละครึ่งชั่วโมงแม้ว่าจะเป็นช่วงเย็นหรือค่ำของวันแล้วก็ตาม จากหลักฐานพบว่าสำหรับคนส่วนใหญ่ที่มีการทำกิจกรรมในช่วงเย็นตั้งแต่ระดับเบาไปจนถึงระดับปานกลางนั้นจะมีการนอนหลับที่ดีในเวลากลางคืน อย่างไรก็ตาม ให้ตัวคุณเองทดลองดูกับตัวเองว่าการออกกำลังกายระดับใดที่เหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุด

10. ห่างไกลโรคเบาหวานการเดินจะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณเหมาะสม
จากผลการศึกษา พบว่า การเดินเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรต่อครั้ง 5 ครั้งต่อสัปดาห์อาจมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้ดีมากกว่าการวิ่งเกือบ 2 เท่าตัว ทั้งนี้ จากการที่ไขมันจะเป็นสิ่งที่จะถูกเผาผลาญไปเป็นลำดับแรกจากการออกกำลังกายระดับปานกลาง ดังนั้น การเดินก็อาจจะมีผลดีในการช่วยพัฒนาความสามารถของร่างกายในการสร้างสารอินซูลินออกมาและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้


สิ่งที่ต้องทำ : จัดทำแผนการเดินออกกำลังกาย

11. กำจัดไขมันส่วนเกินที่พุงลดไขมันส่วนเกินรอบเอว (Muffin Top)
เมื่อใดที่คุณรู้สึกว่าบริเวณพุงของตัวเองเริ่มยื่นออกมามากขึ้นนั้น คุณคงต้องทำอะไรกับตัวเองสักอย่างแล้วล่ะ จากผลการศึกษาหนึ่งพบว่า การทำกิจกรรมทางร่างกายเล็กๆ น้อยๆ สามารถช่วยลดแก๊สในร่างกายและช่วยลดไขมันส่วนเกินได้

เนื่องจากการทำกิจกรรมดังกล่าวจะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มสูงขึ้นและการหายใจจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อลำไส้ ช่วยป้องกันอาการท้องผูกและการสะสมของแก๊สโดยการเร่งให้มีการย่อยอาหารเร็วขึ้น


สิ่งที่ต้องทำ : เดินหรือถีบจักรยานเบาๆ จนกระทั่งคุณรู้สึกดีขึ้น

12. ป้องกันการเกิดภาวะสมองตื้อ (Brain Fog) สร้างกล้ามเนื้อสมองของตัวเอง
การออกกำลังกายนั้น จะทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่ำในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ในปัจจุบัน จากงานศึกษาวิจัยหนึ่งพบว่า การออกกำลังกายสามารถป้องกันการเกิดภาวะสมองตื้อในผู้สูงวัยได้มากเท่ากับผู้ที่อายุน้อยกว่าหลายปี กลุ่มนักวิจัยชาวญี่ปุ่นได้แบ่งผู้ใหญ่ช่วงต้นที่ไม่ค่อยชอบออกกำลังกายออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่หนึ่งให้เข้าคอร์สออกกำลังกายแอโรบิก และกลุ่มที่สองไม่ต้องเข้าคอร์สออกกำลังกาย หลังจากผ่านไป 4 เดือนพบว่า กลุ่มที่ไม่ได้ออกกำลังกายมีเนื้อสองส่วนสีเทา (Gray Matter) ในบางพื้นที่ของสมองลดปริมาณน้อยลง ในขณะที่กลุ่มที่มีการออกกำลังกายไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเนื้อสมองของตัวเองแต่อย่างใด


สิ่งที่ต้องทำ : มีการออกกำลังกายให้เป็นกิจวัตรประจำวัน หรือเข้าสมัครสมาชิกในโรงยิมออกกำลังกาย ซึ่งนอกจากคุณจะได้รับประโยชน์อย่างชัดเจนจากการออกกำลังกายแล้ว การที่ร่างกายของคุณมีความสดชื่นมากขึ้นยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการเจริญเติบโตของเซลล์สมองได้อีกด้วย

13. หัวใจปลอดภัยลดอาการบวมอักเสบที่เป็นอันตราย
จากงานศึกษาหนึ่ง พบว่า ผู้หญิงอ้วนและไม่ชอบการออกกำลังกายที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปที่ได้เริ่มต้นออกกำลังกายแล้วนั้นจะมีระดับโปรตีน C - reactive Protein (สารในเลือดที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคหัวใจ) ในร่างกายลดน้อยลงประมาณ 10% หลังจากที่มีการออกกำลังกายเป็นเวลา 1 ปี


14. ยืดอายุของตัวคุณเองคุณจะมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและกระปรี้กระเปร่าเพิ่มขึ้นอีกหลายปี
ในความเป็นจริงนั้น การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงจะทำให้รูปแบบการทำงานในร่างกายของคุณเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมด้วย ผู้ที่มีการออกกำลังกายอย่างจริงจังจะมีตัวชี้บ่งทางชีวภาพ Telomeres-cellular Biomarkers ที่ยาว (มีขนาดสั้นลงเมื่อเรามีอายุมากขึ้น) กว่าผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ทั่วไปแต่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายมากเท่าใด


15. ห่างไกลมะเร็งทรวงอกเพิ่มภูมิต้านทานในการเกิดโรคมะเร็งทรวงอก
การออกกำลังกายนั้นไม่เพียงแต่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งทรวงอกได้เท่านั้น หากแต่ยังสามารถช่วยคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่ชีวิตของคุณได้ด้วยถ้าหากว่าคุณได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างทันท่วงที หญิงที่มีน้ำหนักตัวมากที่เคยออกกำลังกายมากกว่า 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ก่อนที่จะได้รับการตรวจวินิจฉัยนั้นจะมีโอกาสที่จะเสียชีวิตน้อยกว่าหญิงที่มีการออกกำลังกายน้อยกว่าครึ่งชั่วโมงต่อสัปดาห์มากถึง 47%


สิ่งที่ต้องทำ : ออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ อย่างสม่ำเสมอ โดยอาจเป็นการเดินเร็วๆ เมื่อคุณต้องเดินไปหยิบเอกสารในจุดต่างๆ เดินขึ้นลงบันไดก่อนรับประทานอาหารกลางวัน หรืออาจทำการวิดพื้นและลุกนั่ง (ซิทอัพ) เล็กๆ น้อยๆ ในขณะที่ดูทีวี การออกกำลังกายเพียงครั้งละ 10 นาที วันละ 2-3 ครั้งนั้นก็เพียงพอที่จะทำให้ในแต่ละสัปดาห์คุณได้มีการออกกำลังกายในปริมาณที่เหมาะสมแล้ว


ข้อมูลจาก http://www.siamsafety.com/


16 ส.ค. 2556 เวลา 00:02 | อ่าน 7,713
กำลังโหลด ...


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
ธ.ก.ส. ออกมาตรการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวใต้ เลื่อนเวลาชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 1 ปี และไม่คิดดอกเบี้ยปรับเกษตรกรแจ้งความประสงค์ได้ที่ ธ.ก.ส ในพื้นที่ ถึง 31 มกราคม 2568
69 5 ธ.ค. 2567
แจ้งข่าวดีชาวไร่อ้อย เริ่ม 6 ธ.ค. นี้ ภาคตะวันออกและภาคอีสานเปิดหีบอ้อยน้ำตาลทรายที่แรก ก่อนทยอยเปิดภาคเหนือภาคกลาง คาดจำนวนอ้อยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13.40%
74 5 ธ.ค. 2567
ทุนสำหรับบุคคลทั่วไประดับปริญญา ประจำปี 2568 (ทุน ก.พ.)
71 2 ธ.ค. 2567
ดวงกับดาวประจำวันที่ 1-7 ธันวาคม
29 1 ธ.ค. 2567
การปรับอัตราค่าตอบแทนแรกบรรจุและการปรับค่าตอบแทนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบของพนักงานราชการ (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566)
126 1 ธ.ค. 2567
รัฐบาลเดินหน้าสร้างโอกาสทำงานวัยเกษียณ จับมือ 16 ธุรกิจเอกชน เปิดตำแหน่งงานกว่า 4 พันอัตราทั่วประเทศ สมัครได้ที่เว็บไซต์
311 28 พ.ย. 2567
รองโฆษกรัฐบาล เผยค่าไฟ 4.15 บาท ต่ำกว่าข้อเสนอของ กกพ. ถึง 1.34 บาท ย้ำ “พีระพันธุ์” ต่อรองเต็มที่ เพื่อเป็นของขวัญจากรัฐบาลและ ก.พลังงาน
350 28 พ.ย. 2567
ระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของลูกจ้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2557
71 25 พ.ย. 2567
ดวงกับดาวประจำวันที่ 24-30 พฤศจิกายน 2567
384 24 พ.ย. 2567
รัฐบาลขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ เปิดตัวนวัตกรรม
46 23 พ.ย. 2567
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ไอเดียบ้านสวย
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC Online GED CU-TEP SAT
 
บทความกลุ่มเดียวกัน
กำลังโหลด ...