ศบค. ปรับลดพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 23 จังหวัด ปรับเคอร์ฟิว 23.00-03.00 น. อย่างน้อย 15 วัน เริ่ม 16 ต.ค. นี้ นรม. สั่งตั้ง ศบค. ส่วนหน้า ในจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงในพื้นที่ภาคใต้

14 ต.ค. 2564 เวลา 20:10 | อ่าน 482
แชร์ไปยัง
L
 
ศบค. ปรับลดพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 23 จังหวัด ปรับเคอร์ฟิว 23.00-03.00 น. อย่างน้อย 15 วัน เริ่ม 16 ต.ค. นี้


วันนี้ (14 ตุลาคม 2564) เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ครั้งที่ 16/2564 เห็นชอบปรับลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเหลือ 23 จังหวัด ปรับเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน 23.00-03.00 น. อย่างน้อย 15 วัน สถานดูแลผู้สูงอายุให้เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับได้ ยังคงงดจำหน่ายและดื่มสุราในร้านอาหาร ขณะที่ สธ. เพิ่มสูตรการฉีดวัคซีน Sinovac + Pfizer และ Sinovac - Sinovac กระตุ้นด้วย AstraZeneca และ AstraZeneca - AstraZeneca กระตุ้นด้วย Pfizer


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่า นายกรัฐมนตรีเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มจะคลี่คลายในทางที่ดีขึ้นโดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรได้ถอด “ไทย” ออกจากรายชื่อประเทศกลุ่มสีแดง ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. ทำให้คนที่ได้รับวัคซีนครบโดสตามที่สหราชอาณาจักรรับรองไม่จำเป็นต้องตรวจเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางหรือกักตัวหลังเดินทางถึงสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นผลมาจากการร่วมมือร่วมใจกันของทุกภาคส่วนทำให้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่ได้ผลดีขึ้นเป็นลำดับ และสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศได้

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 เรื่องการออกมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำและฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว โดยไม่มีการกักตัว เฉพาะที่เดินทางเข้าประเทศไทยโดยทางอากาศ ซึ่งจะเริ่มมาตรการนี้ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป และจะเพิ่มจำนวนประเทศในระยะต่อไป โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากประเทศที่อนุญาตให้ประชาชนของเขาเดินทางได้ โดยไม่มีเงื่อนไขมากนัก และสนับสนุนการประกอบอาชีพของประชาชนไทยในภาคการท่องเที่ยว การเดินทาง และภาคธุรกิจพักผ่อนหย่อนใจและบันเทิง รวมถึงภาคธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 จะมีการพิจารณาอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในโอกาสที่กำลังเข้าสู่เทศกาลปีใหม่

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ภาคใต้ นายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญ ติดตามการแพร่ระบาด โดยสั่งการให้มีการพิจารณาจัดตั้ง ศบค. ส่วนหน้า ในจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อให้มีการบริหารจัดการในภาพรวม รวมทั้งให้มีการตรวจด้วยชุดตรวจเร็ว ATK และให้มีการจัดสรรเวชภัณท์ และยา โรงพยาบาลสนาม และระบบ HI ให้พร้อมและเหมาะสม ขณะเดียวกันทุกหน่วยต้องช่วยกันสร้างความรู้ ความเข้าใจ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ปรับพฤติกรรม ยึดหลักการดูแลตนเองด้วยรูปแบบใหม่ และ DMHTT

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องมีมาตรการที่เหมาะสม ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เตรียมพร้อมรับมือกับเชื้อโควิด - 19 สายพันธุ์ใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ได้ตามแผนที่กำหนดไว้ ให้กระจายไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างเป็นระบบ โดยนายกรัฐมนตรียืนยันเจตนารมณ์ในการดูแลทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ทั้งคนไทย กลุ่มเด็ก นักเรียน/นักศึกษา และชาวต่างประเทศในไทยได้รับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม

สำหรับการกำหนดประเทศในการเข้าราชอาณาจักร แบบไม่กักตัวและไม่จำกัดพื้นที่ จะใช้เกณฑ์ด้าน สาธารณสุข เกณฑ์ด้านเศรษฐกิจและสังคม ในการคัดเลือกประเทศ โดยจะมีการกำหนดระยะเวลา และประเทศเพื่อให้เกิดความปลอดภัย พิจารณาอย่างน้อย 20 อันดับแรกที่มีผลต่อเศรษฐกิจสูง และมีเงื่อนไขที่สามารถเดินทางได้ โดยจะใช้เกณฑ์ด้านสาธารณสุขเข้ามาพิจารณาร่วม

ที่ประชุม ศบค. มีมติสำคัญ ดังนี้

1. เห็นชอบปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ดังนี้
- พื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด 23 จังหวัด ขณะจังหวัดที่ไม่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้มแล้ว ได้แก่ สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี เพชรบูรณ์ สิงห์บุรี อ่างทอง และลพบุรี นครราชสีมา แต่จังหวัดที่เพิ่มมาใหม่ ได้แก่ จันทบุรี นครศรีธรรมราช
- พื้นที่ควบคุมสูงสุด 30 จังหวัด
- พื้นที่ควบคุม 24 จังหวัด

2. ปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่
สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
- ปรับเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน เป็น 23.00 น. - 03.00 น. อย่างน้อย 15 วัน
- ปรับเวลาเปิดกิจการ/กิจกรรมต่าง ๆ ตามกำหนด จาก 21.00 น. เป็น 22.00 น.
- จัดการประชุม และจัดงานตามประเพณีนิยมได้ ในศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือ สถานที่จัด นิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้า และโรงแรมได้
- สถานดูแลผู้สูงอายุให้เปิดดำเนินการแบบรับไป - กลับ ได้

สำหรับทุกพื้นที่
- ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ ให้เปิด ตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม ที่เล่นรายบุคคล หรือแข่งเป็นคู่ได้ (ยกเว้นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยังไม่เปิดบริการ)
- การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ปรับเป็น 50, 100, 200, 300, 500 คน

ในส่วนสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ นั้น ที่ประชุม ศบค. ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กทม. ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เร่งกำหนดมาตรการสำหรับเตรียมการให้แล้วเสร็จภายใน 31 ตุลาคม นี้

3. เห็นชอบให้จัดหายา Molnupiravir จำนวน 50,000 คอร์สการรักษา โดยมอบหมายให้กรมการแพทย์ นำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติกรอบวงเงินสำหรับการจัดซื้อยา ต่อไป

ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค. เพิ่มจังหวัดนำร่องการท่องเที่ยว ระยะที่ 1 (1-30 พฤศจิกายน 64 ) จาก 10 จังหวัดเป็น 15 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ (สนามบินสุวรรณภูมิ) กระบี่ (ทั้งจังหวัด) พังงา (ทั้งจังหวัด) ประจวบคีรีขันธ์ (ตำบลหัวหิน หนองแก) เพชรบุรี (เทศบาลเมืองชะอำ) ชลบุรี (พัทยา อำเภอบางละมุง ตำบลนาจอมเทียน ตำบลบางเสร่ เกาะสีชัง อำเภอศรีราชา) ระนอง (เกาะพยาม) เชียงใหม่ (อำเภอเมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า) เลย (เชียงคาน) บุรีรัมย์ (เมือง) หนองคาย (เมือง ศรีเชียงใหม่ ท่าบอ สังคม) อุดรธานี (เมือง นายูง หนองหาน ประจักษ์ศิลปาคม กุมภวาปี บ้านดุง) ระยอง (เกาะเสม็ด) และ ตราด (เกาะช้าง)

ในช่วงท้ายก่อนเสร็จสิ้นการประชุม นายกรัฐมนตรียังขอบคุณและชื่นชมในความสำเร็จของเจ้าหน้าที่ และบุคลากรสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องรวมถึงผู้ปฏิบัติงานในส่วนงานอื่น ๆ ในการจัดหาและให้บริการฉีดวัคซีนได้เกินเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้เป็นอย่างมาก โดยสามารถฉีดวัคซีนได้เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าจากเดือนพฤษภาคม จนประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในสิบประเทศ ที่ฉีดวัคซีนได้เร็วที่สุดในโลก ขณะเดียวกัน ขอให้ทุกหน่วยงานสร้างการรับรู้ สื่อสารให้ชัดเจน สิ่งสำคัญขณะนี้ คือรัฐบาลต้องบริหารงานทั้งสองขา คือ ความปลอดภัยด้านสุขภาพ และการเดินหน้าเศรษฐกิจ ภายใต้ข้อจำกัดด้านงบประมาณ แต่รัฐบาลก็ได้เตรียมแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่งต้องขอบคุณภาคเอกชนและประชาชนที่ช่วยกัน ขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพและคนไทยมีความมั่นคงด้านสุขภาพได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

14 ต.ค. 2564 เวลา 20:10 | อ่าน 482


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
เพิ่มเบี้ยหวัดบำนาญ 11,000 บาท พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2567
241 22 เม.ย. 2567
ดวงกับดาวประจำวันที่ 21-27 เมษายน 2567
234 21 เม.ย. 2567
เงื่อนไข คุณสมบัติ ครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ มีสิทธิได้รับเงินเดือนละ 3,000 บาท เริ่มยื่นเดือนพฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป
543 19 เม.ย. 2567
ก.พ. เพิ่มอัตราเงินข้าราชการบรรจุใหม่ และข้าราชการเก่า ตรวจสอบคุณสมบัติได้ที่นี่
1,281 15 เม.ย. 2567
รถไม่ค่อยวิ่ง ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอนไหนดี ?
69 13 เม.ย. 2567
นายกฯ ย้ำโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้ถึงพี่น้องประชาชนระดับท้องถิ่นและชุมชน
88 12 เม.ย. 2567
สุริยะ รับข้อสั่งการนายกฯ อำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนช่วงสงกรานต์ 2567 “สะดวก-รวดเร็ว-ปลอดภัย เผยการเดินทางวันแรก (11 เม.ย. 2567) พบการเดินทางคึกคัก อุบัติเหตุลดลง
641 12 เม.ย. 2567
แจ้งข่าวดี กองทุนหมู่บ้าน จับมือ ทิพยประกันภัย แจกประกันภัยอุบัติเหตุฟรีช่วงสงกรานต์ ให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศ คุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท
829 12 เม.ย. 2567
ธอส. ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.105% ต่อปี มอบเป็นของขวัญวันปีใหม่ไทย​ เริ่ม 14 เมษายนนี้
421 12 เม.ย. 2567
ดวงกับดาวประจำวันที่ 7-13 เมษายน 2567
549 8 เม.ย. 2567
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ซื้อขายรถบ้าน.com
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC Online GED CU-TEP SAT
 
บทความกลุ่มเดียวกัน