เร่ง แรง พัง!!
รถยนต์ที่จะเคลื่อนที่ได้ก็ต้องมีระบบต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องทั้ง เครื่องยนต์, ช่วงล่าง, ส่งกำลัง แต่หลักการจริงๆ นั้นเกียร์จะเป็นตัวถ่ายทอดกำลังส่งถ่ายไปยังล้อทั้ง 2 ข้างครับ เปลี่ยนความเร็วของตัวรถให้เพิ่มขึ้นหรือลดลงและเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ของตัวรถ..
สิ่งที่จะแจ้งเตือนเรานั้นสำหรับระบบเกียร์ส่งกำลังไม่ว่าจะเป็นเกียร์ธรรมดา, เกียร์ออโต้ จะมีอยู่หลายๆ สาเหตุอย่างเช่น เกียร์ลื่น, เข้าเกียร์ยาก, เกียร์ไม่ทำงาน, เกียร์มีเสียงดังผิดปกติ อื่นๆ อีกมากมาย ส่วนใหญ่อาจเกิดจากความละเลย ไม่หมั่นตรวจสอบสภาพและดูแลรักษาให้ถูกวิธีครับ ซึ่งอาจส่งผลให้ระบบเกียร์และตัวรถของคุณเกิดความเสียหายได้ง่ายขึ้น ตามมาด้วยค่าใช้จ่ายในการบำรุงซ่อมแซมอีกมากมายนอกจากการตรวจสภาพรถโดยทั่วไป ควรมีการตรวจเช็กสภาพต่างๆ ของเกียร์ เพื่อดูว่าเกียร์ยังใช้งานได้ตามปกติหรือไม่และหากชำรุดเสียหายอย่างไรก็จะได้แก้ไขได้ทันนั่นเองครับ
พฤติกรรม “ต้องห้าม” ทำ ถ้าไม่อยากให้เกียร์พังไปมากกว่านี้…
1.เหยียบคันเร่งแรงๆ บ่อยๆ จะทำให้เกียร์พังได้ไวกว่าที่กำหนด ถ้าไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมนี้
2.ใส่เกียร์ว่างขณะรถวิ่ง ถ้าคุณใส่เกียร์ว่างขณะรถกำลังวิ่งอยู่ จะส่งผลให้น้ำมันหล่อลื่นในเกียร์ลดลง จนขาดแรงดัน ทำให้รถเกิดความร้อนสูง และเกียร์พังในที่สุด
3.ใช้เกียร์ P ทั้งๆ ที่รถยังไม่นิ่ง การกระทำเช่นนี้จะส่งผลกับระบบเกียร์โดยตรง เพราะชุดเกียร์ทำงานโดยการล็อคตัวเองอัตโนมัติ จนส่งผลทำให้เกียร์พังได้
วิธีดูแล “เกียร์” ไม่ให้เสียหาย และยืดอายุการใช้งาน
1.หมั่นเช็กสภาพเกียร์อยู่สม่ำเสมอ ทั้งนี้เพราะหากเจอสิ่งผิดปกติจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที ไม่ลุกลาม
2.เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระเวลาที่กำหนด จะช่วยถนอมเกียร์ให้ใช้งานได้นาน โดยควรเปลี่ยนเมื่อรถวิ่งครบ 40,000 – 60,000 กิโลเมตร
3.ไม่เร่งเครื่องแรง เมื่อทำการสตาร์ทรถ เพราะจะทำให้ระบบเกียร์พังได้ง่าย และอาจลุกลามไปถึงระบบเครื่องยนต์เสียหายได้ด้วย
4.ไม่เร่งเครื่องแรง ไม่เหยียบคันเร่งหนัก เพราะอาจทำให้เกียร์กระชาย และเกิดความเสียหายได้
5.ใช้เกียร์ให้เหมาะกับการใช้งาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการขับขี่
ข้อมูลจาก ช่างเคมอเตอร์