วันที่ 26 กันยายน 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 27 ก.ย. 65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 2,100.61 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)จำนวน 1,039,729 คน และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) จำนวน10,577 คน รวม 1,050,306 คน ช่วงเดือนมิ.ย. – ก.ย. 65 รวม 4 เดือน ในอัตรา 500 บาทต่อคนต่อเดือน รวมเป็น 2,000 บาทต่อคน
ทั้งนี้ เงินดังกล่าวเป็นค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชย และเสี่ยงภัย และสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของ อสม. และอสส. ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคโควิด19 ในชุมชนในช่วงระยะเวลาที่โควิด19 ยังคงเป็นโรคติดต่ออันตราย
-Advertisement-
“รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณเพื่อจ่ายค่าตอบแทนแก่ อสม. และอสส. ตามนโยบายที่ รมว.สาธารณสุขได้ให้ไว้ว่าจะดูแล อสม. อสส. ไปจนกว่าโควิดจะหมดไป เนื่องจากช่วงโควิด19 แพร่ระบาด อาสาสมัครมีภารกิจมากขึ้น ซึ่งจะต้องไม่เป็นภาระที่อาสาสมัครต้องจ่ายเอง ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมันรถส่งยา ค่าวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ค่าเดินทางไปเยี่ยมผู้ป่วย และ เก็บข้อมูลสุขภาพประชาชน ซึ่งหาก ครม. อนุมัติงบประมาณในครั้งนี้ จะเป็นการสนับสนุน อสม. และ อสส. รวมแล้วเป็นเวลา 30 เดือน หรือ 2 ปีครึ่ง ตั้งแต่ มี.ค. 63- ก.ย. 65 ในการนี้รองนายกรัฐมนตรียังได้ขอบคุณอาสาสมัครทุกคนที่ได้ร่วมกันทำงานต่อสู้กับโควิดจนสำเร็จ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการแพร่ระบาดของโควิด19 ในประเทศไทย อสม. และ อสส. นับเป็นกลไกสำคัญที่สนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ จนประเทศไทยสามารถต่อสู้กับโรคระบาดได้สำเร็จ และตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 65 เป็นต้นไป โควิด19 ได้ลดระดับจากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ทั้ง อสม. และ อสส. จะยังคงเป็นกำลังสำคัญในการเตรียมความพร้อมประเทศเข้าสู่ระยะ Post - pandemic อาทิ การปรับตัวเพื่อสอดคล้องกับสถานการณ์ การดำเนินงานตามมาตรการของชุมชนเพื่อให้ชุมชนปลอดภัย