ขับรถระยะสั้นๆ เป็นประจำ แบตเสื่อมไว เสี่ยงรถพังจริงหรือ ?

10 มี.ค. 2567 เวลา 11:07 | อ่าน 4,454
 
ขับรถระยะสั้นๆ เป็นประจำ แบตเสื่อมไว เสี่ยงรถพังจริงหรือ


เสื่อมสภาพ

การขับรถระยะทางสั้นๆ เป็นประจำเสี่ยงต่อแบตเตอรี่เสื่อมไว ตอบเลยว่าจริงครับ เนื่องด้วยการสตาร์ตรถนั้นต้องใช้กระแสไฟจากแบตเตอรี่เป็นจำนวนมาก หากเดินทางเพียงระยะสั้นๆ แบตเตอรี่ (Battery)
การขับรถระยะทางสั้นๆ เป็นประจำเสี่ยงต่อ แบตเตอรี่เสื่อมไว ตอบเลยว่า “จริงครับ” เนื่องด้วยการสตาร์ตรถนั้นต้องใช้กระแสไฟจากแบตเตอรี่เป็นจำนวนมาก หากเดินทางเพียงระยะสั้นๆ แบตเตอรี่ (Battery) อาจจะไม่ได้รับการชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ทดแทนที่ใช้ไปกับการสตาร์ตได้เพียงพอ ส่งผลให้แบตเตอรี่ค่อยๆ หมดประจุหรือกระแสไฟในแบตเตอรี่ค่อยๆ ลดลง

เมื่อแบตเตอรี่ไม่ได้รับการประจุไฟไว้เต็มจะเกิดกำมะถันขึ้นในแบตเตอรี่ส่งผลให้ แบตเตอรี่เสื่อมไว ก่อนเวลาอันควร ทำให้แบตเตอรี่ไม่สามารถสตาร์ตเครื่องยนต์ติดได้ จนต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เร็วขึ้นกว่าปกติทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายจากการที่ขับรถช่วงระยะสั้น ๆ เป็นประจำนี่เอง ครับ


ดังนั้นจึงควรขับรถอย่างน้อย ๆ ประมาณ 30 นาที หรือมากกว่าเพื่อให้มีการชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่เพื่อทดแทนที่ถูกใช้ไปในตอนที่สตาร์ตเครื่องยนต์ หากขับไม่ได้ก็ควรจะติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้เพื่อให้มีการชาร์จไฟ และที่สำคัญการเร่งเครื่องยนต์ประมาณ 1,500 -2,000 รอบ/นาที จะทำให้การชาร์จไฟได้เร็วขึ้น ใช้เวลาอย่างน้อย 15 นาที หรือซื้อเครื่องชาร์จแบตเตอรี่มาชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่ก็จะช่วยยื้ออายุการใช้งานให้กับแบตเตอรี่ได้นานตามอายุการใช้งานที่ควรเป็นครับ


การดูแลรักษาแบตเตอรี่


1. ทำความสะอาดสายไฟ ทั้งบวกลบ และแบตเตอรี่ด้วยน้ำอุ่น และเช็ดให้แห้งอยู่เสมอ
2. ตรวจเช็คทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ และทาด้วยวาสลีน เพื่อป้องกับคราบขี้เกลือ
3. ตรวจเช็คน้ำกลั่นสม่ำเสมอ ไม่ปล่อยให้น้ำแห้ง
4. ไม่เติมน้ำกลั่นให้เกินกว่าขีดสูงสุด และต่ำกว่าขีดต่ำสุด
5. ตรวจวัดระดับกระแสไฟแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ

วิธีการหลีกเลี่ยงไม่ให้ แบตเตอรี่เสื่อมไว


1. หลีกเลี่ยงการใช้รถสำหรับการเดินทางระยะสั้นบ่อยๆ การขับรถระยะสั้นๆ บ่อยๆ จะทำให้แบตเตอรี่ (Battery) อาจไม่ได้รับการชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ทดแทนที่ใช้ไปกับการสตาร์ตได้เพียงพอ ส่งผลให้แบตเตอรี่ค่อยๆ หมดประจุหรือกระแสไฟในแบตเตอรี่ค่อยๆ ลดลง

2. ตรวจเช็กจุดยึดแบตเตอรี่ หมั่นตรวจสอบว่าจุดยึดแบตเตอรี่ยังยึดแน่นอยู่ไหม เพราะแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์เวลารถวิ่งอาจทำให้ส่วนประกอบภายในแบตเตอรี่สั่นคลอนและเกิดการกระแทก ทำให้อายุการใช้งานสั้นลงได้

3. รักษาความสะอาดแบตเตอรี่อยู่เสมอ เพราะฝุ่นหรือสิ่งสกปรกต่างๆ อาจทำให้ประสิทธิภาพในการจ่ายไฟของแบตเตอรี่ไม่เต็มที่

4. หลีกเลี่ยงการจอดรถเวลาอากาศร้อนจัด เพราะความร้อนจะส่งผลกระทบกับแบตเตอรี่ทางอ้อม ซึ่งอาจทำให้ของเหลวในแบตเตอรี่ระเหยออกมาได้ เป็นต้น

5. ห้ามปล่อยให้น้ำในแบตเตอรี่แห้ง ถ้าปล่อยให้แบตเตอรี่แห้ง จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้

6. ห้ามจอดรถทิ้งไว้โดยไม่ได้ขับนานๆ ซึ่งนานในที่นี้ คือ ประมาณ 1 อาทิตย์ขึ้นไป เพราะจะทำให้ประจุไฟที่อยู่ในแบตเตอรี่หายไปได้ ฉะนั้นเมื่อได้ขับนานควรหาเวลานำรถออกมาขับเพื่อวอร์มเครื่องยนต์บ้าง


ข้อมูลจาก kmotors.co.th

10 มี.ค. 2567 เวลา 11:07 | อ่าน 4,454


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
ดวงกับดาวประจำวันที่ 8-14 กันยายน 2567
55 9 ก.ย. 2567
คำไทยน่ารู้ ความหมายของคำว่า เกษียณ เกษียร เกษียน ใช้อย่างไร
31 4 ก.ย. 2567
เคาะเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร อายุ 0-6 ปี จาก 800 บาท เป็น 1,000 บาท
234 1 ก.ย. 2567
ดีอี เตือน ข่าวปลอม “กรุงไทยปล่อยสินเชื่อผ่านบัญชี TikTok” พบ “โจรออนไลน์” เปิด 4 บัญชีปลอม ลวงดึงข้อมูล -ดูดเงิน ปชช.
69 1 ก.ย. 2567
ลมยางควรเติมบ่อยแค่ไหน เติมเท่าไหร่ดี
47 1 ก.ย. 2567
ดวงกับดาวประจำวันที่ 1-7 กันยายน 2567
508 1 ก.ย. 2567
บัตรทอง “ทำฟันฟรี” แค่มีบัตรประชาชนใบเดียว
88 31 ส.ค. 2567
วัยเก๋าไม่โดนลวง สื่อสุขภาพแบบดิจิตอล เข้าถึงเพียงปลายนิ้ว ต้องรู้ให้เท่าทัน
67 31 ส.ค. 2567
สัญญาณเตือนของภาวะสมองเสื่อมระยะแรก
76 31 ส.ค. 2567
ดวงกับดาวประจำวันที่ 25-31 สิงหาคม 2567
794 25 ส.ค. 2567
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ไอเดียบ้านสวย
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC Online GED CU-TEP SAT
 
บทความกลุ่มเดียวกัน