ก.พ.ชงครม.ยืดอายุ ขรก.เกษียณ 65 ปี เคาะแก้กม.เม.ย.นี้ – ปลัดฯคลังชี้อาจส่งผลกระทบ

29 มี.ค. 2559 เวลา 08:09 | อ่าน 17,679
 
ยืดอายุ ขรก.เกษียณ 65 ปี

รัฐบาลเล็งให้ขรก.เกษียณอายุ 65 ปี รองรับสังคมผู้สูงอายุ สำนักงาน ก.พ.เตรียมเสนอครม.ช่วงเดือนเม.ย. ด้านกระทรวงการคลังชี้สังคมสูงอายุเสี่ยงก่อให้เกิดวิกฤตการคลังระยะ 10-15 ปีข้างหน้า หากไม่เร่งจัดการกรณีปัญหารองรับ
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) ศึกษาเกี่ยวการการเพิ่มอายุราชการเกษียณ 65 ปีเรียบร้อยแล้ว จากเดิมให้กำหนดให้เกษียณ 60 ปี โดยเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ภายในเดือนเมษายนนี้ เพื่ออนุมัติให้มีการแก้ไขพ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2494 ในมาตราที่กำหนดอายุเกษียณราชการ โดยจะเสนอเพิ่มอายุการเกษียณราชการเป็น 65 ปี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่แก้ไขนับจากบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวเมื่อปี 2494

แหล่งข่าวกล่าวว่า สาเหตุที่เสนอให้แก้ไขประเด็นดังกล่าว เนื่องจาก เห็นว่าไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงอายุ ขณะที่ อัตราการเกิดใหม่ของคนน้อย ทำให้คนในวัยทำงานไม่เพียงพอต่อการพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ การขยายอายุการเกษียณราชการเป็น 65 ปี ยังจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดต่อระบบงบประมาณในการดูแลบุคลากรทั้งในด้านของอัตราค่าจ้าง ค่ารักษาพยาบาล รวมถึง เงินบำเหน็จบำนาญ

แหล่งข่าว กล่าวว่า ในแต่ละปีจะมีจำนวนข้าราชการที่เกษียณอายุราชการประมาณ 3 หมื่นคน จากจำนวนข้าราชการประมาณ 1.7 ล้านคน ในจำนวนที่เกษียณอายุไปนี้ ส่วนราชการจะต้องรับบุคลากรเข้ามาทดแทน ส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายในด้านเงินเดือนและค่ารักษาพยาบาล ซึ่งในส่วนของค่ารักษาพยาบาลนี้ จะรวมถึง บุคคลในครอบครัวตามกฎหมายด้วย เพราะข้าราชการที่เกษียณอายุ 3 หมื่นคนต่อปีนี้ รัฐยังต้องจ่ายเงินค่าบำเหน็จหรือค่าบำนาญ และ ค่ารักษาพยาบาลจนกว่าจะเสียชีวิต และ เมื่อรับบุคลากรใหม่เข้ามาทดแทน ภาครัฐก็จะมีรายจ่ายเข้ามาเพิ่มขึ้น ดังนั้น เพื่อชะลอการรับบุคลากรใหม่ และคงรายจ่ายสำหรับบุคลากร ดังนั้นการต่ออายุราชการอีก 5 ปี น่าจะช่วยแก้ไขเรื่องดังกล่าวได้บ้าง

ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการคลังที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะ 10-15 ปีข้างหน้า โดยปัจจัยที่เข้ามากระทบหลักๆ คือ ภาระการคลังที่จะต้องเข้ามารองรับสังคมผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กระทรวงการคลังพยายามเตรียมแผนไว้รองรับ หนึ่งในนั้น คือ การพัฒนาตลาดเงินและตลาดทุน เพื่อเป็นแหล่งทุนและแหล่งเงินออมรองรับกรณีดังกล่าว

“ขณะนี้ กระทรวงการคลังพยายามพัฒนาตลาดตราสารหนี้ให้เป็นเสาหลักในระบบเศรษฐกิจไทย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตการเงินในอนาคต อย่างไรก็ดีขณะนี้ พื้นฐานด้านการเงินของประเทศมีความแข็งแกร่ง ไม่เป็นปัจจัยให้เกิดวิกฤตดังกล่าว แต่สิ่งที่จะก่อให้เกิดวิกฤตในอนาคตหรือระยะ 10-15 ปีข้างหน้า คือ วิกฤตการคลัง ซึ่งถ้าไม่แก้ปัญหาบางอย่าง จากโครงสร้างต่างๆในปัจจุบัน วิกฤตที่เกิดขึ้นจะเป็นวิกฤตการคลัง ไม่ใช่วิกฤตการเงิน เพราะภาระการคลังใหญ่หลวงจะเกิดใน 10-15 ปีข้างหน้า สืบเนื่องจาก ปัญหาสังคมสูงอายุ”นายสมชัย กล่าว


ข้อมูลจาก มติชนออไลน์ http://www.matichon.co.th/news/85875


29 มี.ค. 2559 เวลา 08:09 | อ่าน 17,679


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
พิเศษ! เฉพาะคนอยากมีคอนโดมิเนียม! ธอส. นำทรัพย์เด่นกว่า 700 รายการ ลดสูงสุด 50% จัดงานประมูลบ้านมือสองออนไลน์ ประจำเดือนกรกฎาคม วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2567
22 24 ก.ค. 2567
โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet โครงการเพื่อประชาชน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจแล้ววันนี้
121 24 ก.ค. 2567
ดวงกับดาวประจำวันที่ 21-27 กรกฎาคม 2567
33 22 ก.ค. 2567
ดวงกับดาวประจำวันที่ 14-20 กรกฎาคม 2567
630 14 ก.ค. 2567
โฆษก มท. เผย มหาดไทยเตรียมออกประกาศยกเว้นวีซ่า 60 วัน สำหรับ 93 ประเทศเริ่ม 15 ก.ค. 67 พร้อมปรับปรุงแนวทางตรวจลงตราให้ยืดหยุ่น หนุนไทยแข่งดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก
76 12 ก.ค. 2567
ฤกษ์ออกรถ ปี 2567
730 12 ก.ค. 2567
ดวงกับดาวประจำวันที่ 7-13 กรกฎาคม 2567
171 7 ก.ค. 2567
โรคที่มากับหน้าฝน
161 4 ก.ค. 2567
การนั่งดูโทรทัศน์นาน ๆ ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร
150 4 ก.ค. 2567
ดวงกับดาวประจำวันที่ 30 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2567
760 30 มิ.ย. 2567
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ไอเดียบ้านสวย
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC Online GED CU-TEP SAT
 
บทความกลุ่มเดียวกัน