ในช่วงหลังนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ชื่อว่าเป็นส่วนราชการที่มีหน่วยงานใหม่ๆระดับกรมเกิดขึ้นมากที่สุด
อย่างเช่นการรื้อฟื้นจัดตั้ง กรมการข้าว ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ต่อมาก็มี กรมหม่อนไหม แล้วตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการจัดตั้ง กรมฝนหลวง โดยยกระดับมาจาก สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ในสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ย้อนหลังไปมากกว่านี้ถึงแม้ว่าจะต้องโอนงานบางส่วนของ กรมป่าไม้ ไปให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดตั้งเป็น กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แล้วในที่สุด กรมป่าไม้ ก็หลุดจากกระทรวงเกษตรฯตามไปอยู่กระทรวงทรัพยากรฯและตอนนี้ทำท่าว่าจะมีการรวม 2 กรมกลับมาเป็นกรมเดียวกันในชื่อ กรมป่าไม้ ตามเดิม
แต่กระทรวงเกษตรฯก็ได้หน่วยงานใหม่ระดับกรมขึ้นมาคือ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
ส่วนของกระทรวงอื่นๆมีหลายกรมที่ถูกเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามใหม่นึกว่าโก้เก๋ แต่แล้วพอเวลาผ่านไปไม่นานก็ต้องหวนกลับมาใช้ชื่อเดิม
เท่าที่จำได้ก็มีของกระทรวงคมนาคมเช่น กรมการขนส่งทางอากาศ กลับมาใช้ กรมการบินพลเรือน ส่วน กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ก็กลับมาใช้ชื่อ กรมเจ้าท่า ตามเดิม
ของ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มี สำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ ก็ต้องกลับมาใช้ กรมพลศึกษา ตามเดิม
ส่วน สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว ปรับอีกครั้งเป็น กรมการท่องเที่ยว
เช่นเดียวกับ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ใน กระทรวงวัฒนธรรม เปลี่ยนเป็น กรมส่งเสริมวัฒนธรรม
ตอนนี้มีข่าวว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง ของ กระทรวงมหาดไทย ที่รวม 2 กรม เข้ามาอยู่ด้วยกัน ทำท่าว่าจะต้องแยกกลับไปเป็น 2 กรมเหมือนเดิม คือ กรมโยธาธิการ และ กรมการผังเมือง เพราะงานที่ดูเหมือนว่าคล้ายคลึงกันนั้น ที่จริงแตกต่างกันมากมาย
ที่น่าเสียดายที่สุดคือ กรมประชาสงเคราะห์ อันเก่าแก่ซึ่งมี ความหมายลึกซึ้ง ดันกลายเป็น กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ อะไร ก็ไม่รู้อยู่ใน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ากำลังจะเปลี่ยนกลับไปใช้ชื่อเดิมเหมือนกัน
ยังดีที่ไม่บังอาจเปลี่ยนชื่อ กรมชลประทาน ของ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปเป็น กรมจัดสรรน้ำ หรืออย่างอื่นที่เชยๆกว่านี้
นอกจากเรื่องชื่อเสียงเรียงนามของกรมแล้ว การปฏิรูประบบราชการที่ผ่านมายังมีอะไรที่ผิดฝาผิดตัวอยู่ไม่น้อย ซึ่งจะได้กล่าวถึงต่อไป.
“ซี.12”
ข้อมูลจาก
www.tharath.co.th โดย ซี.12
24 ตุลาคม 2555, 05:00 น.